ในวันนี้ (29 มกราคม 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยภายหลังการหารือกับ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนว่า ประเทศจีนให้ความสนใจเรื่อง Landbridge แต่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม และไม่ใช่เพียงแค่ทางรัฐบาลจีนอย่างเดียว ทางเอกชนของจีนก็ให้ความสนใจที่จะมีส่วนร่วม
โดยโครงการ Landbridge ถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจและยังสามารถเป็นจุดเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ BRI เชื่อมเอเชียไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรปได้ จึงอยากให้จีนมีส่วนร่วมในโครงการที่สำคัญนี้
ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศจีนทราบดีอยู่ว่าหนึ่งในเหตุผลหลักที่ประเทศไทยควรจะมีโครงการ Landbridge เนื่องจากการลงทุนที่มาจากประเทศจีนในช่วงปีหลัง ๆ บริษัทใหญ่ ๆ ของประเทศจีนมาลงทุนสร้างโรงงานผลิต โรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในเมืองไทย และไม่ใช่แค่มาตอบสนองความต้องการของคนในประเทศไทยอย่างเดียว แต่จะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออก
ทั้งนี้ ประเทศไทยจะต้องมีท่าเรือน้ำลึก ต้องมี Mega Project ใหญ่ ๆ อย่างโครงการ Landbridge เพื่อที่จะซัพพอร์ตในจุดนี้ โดยทางด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็จะเดินทางไปประเทศจีนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อจะจัดทำ Road Show ให้เกิดขึ้น
ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันความตั้งใจของฝ่ายไทยในการเร่งก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง และการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางไทย - ลาว – จีน ทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยมีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศจีน ซึ่งในปีหน้าก็จะครบ 50 ปี ตนเองได้ถือโอกาสเรียนเชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ให้ท่านมาเยือนที่ประเทศไทยด้วย
โดยในปี 2568 ไทยและจีนจะครบรอบการฉลอง 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอย่างลึกซึ้ง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่สะท้อนถึงความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลจะสร้างประชาคมไทย - จีนที่มีอนาคตร่วมกัน และขอให้ทั้งสองฝ่ายหารืออย่างใกล้ชิดถึงการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองร่วมกัน โดยเฉพาะกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์และความเข้าใจในระดับประชาชน
อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ ไทยได้มีการเซ็นสัญญาเรื่องการค้าทางด้านเกษตรกรรมระหว่างร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับทูตจีน ด้านการส่งเสริมสินค้าเกษตร ในวันนี้จะมีการลงนามเอกสารเพื่อส่งออกสินค้าเกษตรจากไทยไปจีนจำนวน 2 ฉบับ
สำหรับด้านการค้าและการลงทุน ไทยยินดีที่วิสาหกิจและภาคเอกชนจีนมาลงทุนในไทยเป็นอันดับต้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยไทยพร้อมส่งเสริมการเติบโตของบริษัทจีนเพื่อส่งออกสินค้าไปยังตลาดทั่วโลก ซึ่งนายหวัง อี้ เห็นพ้อง ซึ่งพร้อมให้จีนสนับสนุนเรื่องการพัฒนาศักยภาพ บุคลากรของไทย และถ่ายทอดเทคโนโลยีต่าง ๆ
ขณะที่ความสัมพันธ์ระดับประชาชนและการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและหนังสือเดินทางกึ่งราชการ โดยนายกรัฐมนตรีถือเป็นนิมิตรหมายอันดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนในระยะยาว พร้อมเน้นย้ำว่า ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน
รวมทั้ง ได้หารือถึงการส่งมอบหมีแพนด้าในฐานะทูตสันถวไมตรีระหว่างจีนกับไทยอีกครั้งหนึ่ง ด้านนายหวัง อี้ เห็นพ้องโดยถือเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ โดยจะนำข้อเสนอนี้ หารือร่วมกันเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อสนับสนุนต่อไป
นอกจากนี้ นายหวัง อี้ ได้กล่าวชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ได้เลือกเยือนจีนเป็นประเทศแรกในเอเชีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญกับจีน ซึ่งทั้งสองประเทศมีความผูกพันธ์ฉันมิตรอย่างใกล้ชิด ดังเช่นที่กล่าวว่า ‘จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน’ สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรีได้หารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่ต่างเห็นพ้องว่าจะสร้างประชาคม สำหรับประชาชนร่วมกันในอนาคต นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นกำลังสำคัญส่งเสริมความเสถียรภาพและสันติภาพของทั่วโลก จีนและไทยเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน มีความไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งความเป็นพันธมิตรระหว่างกันจะเป็นส่วนสําคัญที่จะส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาในภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะหาแนวทางร่วมกันเพื่อรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่อย่างครอบคลุม โดยพร้อมร่วมมือกันในการสกัดกั้นและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์ การพนัน ออนไลน์ การค้ามนุษย์ และยาเสพติด ซึ่งนายหวัง อี้ ยืนยันว่า ทางจีนให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว โดยพร้อมร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหา
ขณะที่ความร่วมมือระดับภูมิภาค ไทยเชื่อมั่นว่าจะเป็นตัวแทนในการรักษาเสถียรภาพ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับภูมิภาคนี้ได้ ซึ่งนายหวัง อี้ ยืนยันว่าจีนพร้อมสนับสนุนไทยในการเป็นประธานกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง ในปี 2567 นี้ เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับประชาชาชนในภูมิภาค
นายกรัฐมนตรีฝากความระลึกถึงและปรารถนาดีไปยังนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน และยินดีสำหรับการลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย – จีน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันเรื่องการค้าขายและความสัมพันธ์ในระดับประชาชนร่วมกัน