L6 เป็นสลากรูปแบบใหม่ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 นี้ เป็นงวดแรก ซึ่งได้มีการเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2566
หากถูกรางวัลสลากกินแบ่ง L6 สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ ดังนี้
โดยนำสลากใบที่ถูกรางวัลพร้อมด้วยบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่
ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6: L6) แบบดิจิทัล ระบบจะตรวจสอบการถูกรางวัลให้อัตโนมัติ โดยผู้ซื้อสามารถเลือกรับเงินรางวัลโดยการโอนเข้า บัญชีธนาคารกรุงไทย หรือเข้า G-Wallet ของผู้ซื้อได้ภายในไม่เกิน 2 ชั่วโมง
สำหรับผู้ถูกรางวัลสามารถขึ้นรางวัลได้ทันที หรือจะถือครองไว้ได้นาน 2 ปี เหมือนกับสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบใบปัจจุบัน
หมายเหตุ : แต่ผู้ที่ถูกรางวัลชำระอากรสแตมป์ใบรับรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในอัตรา 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท ต่ออากรแสตมป์ 1 บาท ตามประมวลรัษฎากร (อัตราส่วนค่าอากรแสตมป์ 0.50 บาท ต่อเงินรางวัล 100 บาท หรือเศษของ 100 บาท)
สลาก L6 จัดจำหน่ายออกเป็นชุด ชุดละ 1,000,000 ฉบับ/รายการ แต่ละฉบับ/รายการ ประกอบด้วย หมายเลข 6 หลัก ในแต่ละชุดเป็นการกำหนดเหมายเลขไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถเลือกซ้ำกันได้
โดยการจัดสรรรางวัลในแต่ละชุดมี 9 รางวัล จำนวนรางวัลทั้งหมด 14,168 รางวัลต่อสลาก 1 ชุด ดังนี้
สลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก หรือ NUMBERS 3 หรือ N3 เรียกว่า เอ็นสาม เป็นสลากรูปแบบใหม่ ประกอบด้วยหมายเลขให้เลือก 3 หลัก แต่ละหลักมี 10 หมายเลข ตั้งแต่ 0 ถึง 9 (000 – 999) โดยไม่กำหนดหมายเลขไว้ล่วงหน้า ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักให้ครบ 3 หลัก และสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักซ้ำกันได้
ทั้งนี้ สลาก N3 เป็นสลากประเภทสมทบเงินรางวัล โดยสมทบได้ไม่เกิน 1 งวด หากไม่มีผู้ถูกรางวัลอีกให้นำเงินสมทบเงินรางวัล ในงวดก่อนหน้าส่งเป็นรายได้แผ่นดิน จำหน่ายเฉพาะรูปแบบแบบดิจิทัลเท่านั้น ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันเป๋าตัง ออกรางวัลทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือน
โดย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เผยว่า
สำหรับสลากงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่จะเริ่มขายในวันที่ 17 กันยายน 2566 นี้ เป็นงวดแรกที่จะจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6: L6) ทั้งสลากใบ และสลากดิจิทัล รวม 101 ล้านฉบับ แบ่งเป็น สลากใบ 80 ล้านฉบับ และสลากดิจิทัล 21 ล้านฉบับ
ในขณะที่ สลากดิจิทัล ไม่ได้มีการพิมพ์ขึ้นมาเป็นใบ แต่เป็นข้อมูลที่อยู่ในระบบดิจิทัล มีการพิมพ์ข้อความ L6 แบบดิจิทัล บนสลาก และทำการซื้อขายผ่านแอปเป๋าตัง
ตั้งเป้าเพิ่มสลากดิจิทัล เป็น 30 ล้านใบ
ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ยังคงตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนผู้ซื้อ สามารถเข้าถึงสลากฯ ราคา 80 บาท ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัล เป็น 30 ล้านใบ หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2 ล้านใบต่องวด ตามภาวะตลาดในแต่ละงวด
โดยไม่กระทบสลากแบบใบในระบบที่มีอยู่ 80 ล้านใบ โดยจะทยอยเชิญรายย่อยที่ลงทะเบียนเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัลมาทำสัญญา รวมทั้งยังมีการเปิดให้ตัวแทนประเภทบุคคลรายย่อยทั่วไป คนพิการ สมาคม องค์กร มูลนิธิ และผู้มีสิทธิ์ทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาลแจ้งความประสงค์โดยสมัครใจเข้าร่วมเป็น ตัวแทนจำหน่ายสลากดิจิทัล (Lottery 6 หรือ L6) ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2566-28 ต.ค. 2566 ผ่านเว็บไซต์ www.glo.or.th อีกด้วย