Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เกิดอะไรขึ้น?  ทำไมปั๊ม ‘เวียดนาม’ ทยอยปิด น้ำมันขาดแคลนไม่พอขาย
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

เกิดอะไรขึ้น? ทำไมปั๊ม ‘เวียดนาม’ ทยอยปิด น้ำมันขาดแคลนไม่พอขาย

1 พ.ย. 65
18:08 น.
แชร์

ในสมัยนี้ต้องยอมรับว่า ‘เวียดนาม’ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังมีทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ตลาด กำลังคน และปัจจัยอื่นๆ ที่เหมาะสมทำให้กลายเป็นประเทศเนื้อหอมที่หลายๆ บริษัทต่างหันไปลงทุนตั้งฐานการผลิต

istock-1324017792_1

แต่ถึงจะมีปัจจัยครบเครื่อง ในตอนนี้เวียดนามกำลังเจอปัญหาหนักที่อาจชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ นั่นก็คือ “ปัญหาขาดแคลนน้ำมัน” ที่หนักจนปั๊มน้ำมันบางแห่งในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ต้องหยุดการจำหน่ายน้ำมันชั่วคราว เพราะไม่มีน้ำมันจะขาย ในขณะที่ปั๊มที่เปิดทำการอยู่ก็มีคนไปใช้บริการจำนวนมาก จนลูกค้าต้องต่อแถวรอซื้อน้ำมันเป็นเวลานาน

อะไรทำให้เวียดนามประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันในประเทศ ทั้งๆ ที่กำลังเป็นหนึ่งในดาวรุ่งการลงทุนในอาเซียน ทีมข่าว Spotlight สรุปมาให้อ่านกัน

 

เวียดนาม จากประเทศส่งออก สู่ประเทศนำเข้าน้ำมัน

ก่อนอื่นต้องอธิบายโครงสร้างธุรกิจน้ำมันในเวียดนามก่อนว่า แท้จริงแล้วเวียดนามเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกน้ำมันได้ และมีปริมาณน้ำมันสำรองถึง 4.4 พันล้านบาร์เรล มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย รองจากจีนและอินเดีย 

โดยในปี 2021 เวียดนามผลิตน้ำมันได้ 10.97 ล้านตัน หรือราว 81.8 ล้านบาร์เรล และส่งออกน้ำมันได้ 3.1 ล้านตัน หรือราว 23.1 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ยังมีโรงกลั่นหลัก 2 แห่ง คือ โรงกลั่นยวุ๋งกว๊าต (Dung Quat) และ โรงกลั่นหงิเซิน (Nhgi Son) ที่ผลิตน้ำมันกว่า 70% ต่อปีป้อนลูกค้าภายในประเทศ

istock-1054969666

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เวียดนามจะผลิตน้ำมันใช้เองในประเทศได้ และเคยนำเข้าน้ำมันในปริมาณที่น้อยกว่าส่งออก แต่ในปี 2018 เวียดนามก็กลายเป็นประเทศนำเข้าเพราะมีการก่อสร้างโรงกลั่นหงิเซินที่ส่วนมากกลั่นน้ำมันนำเข้าจาก “คูเวต” เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น ทำให้ปัจจุบันเวียดนามนำเข้าน้ำมันในปริมาณที่สูงกว่าส่งออกมาก โดยในปี 2021 เวียดนามนำเข้าน้ำมันถึง 9.9 ล้านตัน หรือราว 73.8 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ส่งออกเพียง 23.1 ล้านบาร์เรล

ทำให้ในปัจจุบันเวียดนามต้องพึ่งพาน้ำมันจากประเทศอื่นพอสมควร ถึงจะพอป้อนความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ และการต้องพึ่งพาน้ำมันนำเข้านี้เองทำให้ราคาน้ำมันโลก ค่าเงิน และเพดานค่าน้ำมันในประเทศส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุปทานน้ำมันในประเทศ

 

ค่าเงินอ่อน นำเข้าแพง แต่ถูกบังคับให้ขายราคาถูก

ในปัจจุบัน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งโรงกลั่นและปั๊มน้ำมันในประเทศมีปริมาณน้ำมันจำหน่ายน้อยลง คือ ต้นทุนการนำเข้าและจำหน่ายน้ำมันที่สูงขึ้น และเพดานราคาขายปลีกน้ำมันที่รัฐบาลกำหนดให้ต่ำ ทำให้โรงกลั่นและผู้จำหน่ายขาดทุน รวมถึงไม่สามารถกู้เงินเพิ่มได้ เพราะได้กู้ไปจนเต็มวงเงินที่กู้ได้แล้ว

จากข้อมูลของ S&P Global ค่าเงินดองที่อ่อนค่ามากในช่วงนี้ รวมไปถึงราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ต้นทุนการน้ำเข้าน้ำมันของบริษัทน้ำมันในเวียดนามสูงขึ้น 2-3 เท่าจากปีที่แล้ว

โดยต้นทุนการนำเข้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 306 ดองต่อลิตรในไตรมาสที่ 1 ไปเป็น 967 ดงต่อลิตรในไตรมาสที่ 3 แต่ราคาน้ำมันภายในประเทศกลับยังคงถูกรัฐบาลกดให้ต่ำ เพราะต้องการลดภาระให้ประชาชนที่กำลังประสบความเดือดร้อนจากภาวะเงินเฟ้อ ทำให้บริษัทนำเข้าขาดทุน 667 ดองต่อลิตรในไตรมาสที่ 2 และคาดว่าจะขาดทุนเพิ่มเป็น 1,100 ดองต่อลิตรในไตรมาสที่ 4

แรงกดดันจากหลายทางนี้เองทำให้บริษัทน้ำมันนำเข้าน้ำมันได้น้อยลง เพราะทั้งไม่มีเงินทุนพอจะนำเข้าเพราะธนาคารไม่อนุญาตให้กู้เงินเพิ่ม และไม่มีแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่จะนำเข้าน้ำมันมาจำหน่ายเพราะทำไปก็ขาดทุน หรือบางรายก็ได้กำไรน้อยเกินไป

โดยในไตรมาสที่ 3 จำนวนผู้นำเข้าน้ำมันในเวียดนามลดลงจาก 36 ราย ลงมาเหลือเพียง 19 ราย ทำให้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันลดลง 40% และทำให้ปริมาณน้ำมันในประเทศลดลงไปด้วย 

นอกจากนี้ ผู้ทำธุรกิจปั๊มน้ำมันยังออกมาร้องเรียนอีกด้วยว่า ต้นทุนการขนส่งน้ำมันภายในประเทศยังสูงขึ้น 7-8 เท่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่หน่วยงานของรัฐบาลทั้งกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่สนใจปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเพื่อแบ่งเบาภาระของผู้จัดจำหน่าย แต่เลือกที่จะคงราคาน้ำมันให้ต่ำเพื่อช่วยประชาชน แต่ทำให้ผู้ขายขาดทุน

โดยจากการรายงานของ VN Express สำนักข่าวในเวียดนาม ผู้ทำธุรกิจปั๊มน้ำมันรายเล็กบางรายขาดทุนถึง 8 พันล้านดอง หรือราว 12 ล้านบาท และเสี่ยงจะล้มละลายแล้วในปีนี้

ขณะที่รัฐบาลยังทำเพียงแค่ประคองสถานการณ์ โดยได้สั่งการให้ลดการส่งออกน้ำมัน และเพิ่มทั้งปริมาณการผลิตและกำลังในการกลั่นน้ำมันของโรงกลั่นยวุ๋งกว๊าตให้เพิ่มจาก 107% เป็น 109% และของโรงกลั่นหงิเซิน (Nhgi Son) ให้เต็ม 100%

เรียกได้ว่ากระทบกันไปหมดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อน้ำมัน เพราะนอกจากบริษัทน้ำมันจะไม่มีกำลังนำเข้าน้ำมันมาจำหน่ายแล้ว ผู้บริโภคและธุรกิจภายในประเทศก็จะไม่มีน้ำมันใช้ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนประเทศด้วย ซึ่งก็นับว่าเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลเวียดนามต้องเร่งแก้ไข เพราะความต้องการใช้น้ำมันในประเทศก็ไม่น่าจะลดลงภายในเร็ววันนี้ หากพิจารณาจากขนาดเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

 

 

ที่มา: S&P Global, VN Express, Nikkei Asia

แชร์
เกิดอะไรขึ้น?  ทำไมปั๊ม ‘เวียดนาม’ ทยอยปิด น้ำมันขาดแคลนไม่พอขาย