หลังจากพยายามกันมาหลายปี ในที่สุด ‘Ethereum’ (ETH) ก็ทำ ‘The Merge’ หรือการรวม (Merge) เครือข่ายระหว่าง Beacon Chain และ Ethereum Mainnet สำเร็จแล้วเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมาในวันนี้ตามเวลาในไทย
โดยการควบรวมเครือข่ายครั้งนี้จะทำให้ ‘วิธีขุดเหรียญ ETH’ เปลี่ยนไปจากวิธี Proof-of-Work (PoW) มาเป็น Proof-of-Stake (PoS) และจะทำให้การขุดและการทำงานของ Ethereum blockchain ต่อจากนี้มีความปลอดภัยมากขึ้น และใช้พลังงานน้อยกว่าที่เคยเป็นถึง 99%
เพราะในขณะที่ด้วยวิธี PoW นักขุดเหรียญต้องใช้คอมพิวเตอร์สมรรถภาพสูง (ซึ่งกินไฟมาก) ไปแข่งกันแก้สมการเพื่อยืนยันธุรกรรม (Transactions) ของเหรียญ แล้วชิง ETH มาเป็นรางวัล
วิธี PoS จะ ทำให้นักขุดไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์มาแข่งกันแก้สมการอีกต่อไป แต่ต้อง ‘ใช้เหรียญที่ตัวเองมีอยู่จำนวนหนึ่ง’ มา ‘stake’ หรือวางค้ำประกันไว้เพื่อยืนยันว่าธุรกรรมที่กำลังจะยืนยันนั้นถูกต้อง
โดยการยืนยันในแต่ละรอบระบบจะใช้วิธีการ ‘สุ่ม’ คนมายืนยันธุรกรรม โดยดูจาก 1. จำนวนเหรียญที่คนนั้นเอามา stake และ 2. ระยะเวลาที่คนนั้นเคย Validate ธุรกรรมมาแล้ว
ทำให้ด้วยวิธี PoS นักขุดไม่ต้องแข่งกันที่สมรรถภาพคอมพิวเตอร์อีกต่อไป แต่มาแข่งกันที่ ‘จำนวนเหรียญที่ถือ’ และ ‘ประสบการณ์ในการยืนยันธุรกรรม’ แทน
ทำให้การขุดเหรียญประหยัดพลังงานมากขึ้น เพราะไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์มาแข่งกัน และปลอดภัยขึ้น เพราะคนจะอยากโกง หรือหาช่องโหว่เพื่อโจมตีระบบน้อยลง เพราะในตอนนี้มีเหรียญที่เป็นสมบัติของตัวเองเป็นเดิมพัน
จึงนับได้ว่า การควบรวมเครือข่ายครั้งนี้เป็นการแก้ pain points สำคัญของการขุดเหรียญและระบบการเงินแบบกระจายศูนย์กลาง (DeFi) หลายประการ หลังถูกประนามว่าเป็นกระบวนการและอุตสาหกรรมทำลายโลกมานานเพราะใช้พลังงานสูง
อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เรียกได้ว่ามา ‘ถูกเวลา’ เพราะในขณะที่โลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนพลังงานและไฟฟ้าแบบนี้ หากอุตสาหกรรมไหนช่วยลดปัญหาตรงนี้ได้ ก็นับเป็นเรื่องน่ายินดีมาก