ราคาบ้านใหม่ในประเทศจีนร่วงหนักมากที่สุดในรอบกว่า 8 ปี ขณะที่ราคาบ้านมือสองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน ลดลงต่อเนื่องในรอบ 9 ปีที่ผ่านมา
จากการรายงานของ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ที่ระบุว่า เวลานี้ ราคาบ้านใหม่ในประเทศจีนร่วงหนักสุดในรอบ 8 ปีกว่า ถือว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนตกต่ำย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ
จากข้อมูล สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเผยแพร่ข้อมูลดัชนีราคาบ้านที่พบว่า ราคาบ้านใหม่และบ้านมือสองในเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลาง 70 เมืองของจีน ไม่รวมบ้านที่ได้รับการอุดหนุนจากรัฐบาล ปรับตัวลดลงในเดือนตุลาคม 2566 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
โดยราคาบ้านใหม่ลดลง 0.38% จากเดือนกันยายน เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 หรือในรอบ 8 ปีกว่า ส่วนราคาบ้านมือสองลดลง 0.58% จากเดือนกันยายน เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 หรือในรอบ 9 ปี
การลดลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยภาวะตลาดตกต่ำนี้เป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายคุมเข้มสินเชื่อของรัฐบาลจีน ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาคอสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ของจีน ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และเมื่อความเชื่อมั่นในตลาดบ้านลดต่ำ ประชาชนก็ขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในภาพรวมไปด้วย ทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีผู้ซื้อบ้านเริ่ม ไม่ผ่อนต่อ เพราะมีความกังวลว่าบ้านของพวกเขาจะสร้างไม่เสร็จ
ส่วนอุปสงค์ความต้องการบ้านใหม่ก็ลดลง ซึ่งทำให้การนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างลดลงตามไปด้วย และแม้ว่ารัฐบาลจีนจะพยายามกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ราคาบ้านในหลายสิบเมืองทั่วประเทศ ก็ได้ตกต่ำลงไปแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
Chen Wenjing รองผู้อำนวยการวิจัยของ China Index Holdings กล่าว "ผู้ซื้อบ้านรู้สึกท้อแท้จากรายได้ที่ลดลงและแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่แน่นอน" ถึงแม้ว่า การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะเกิดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลังจากการเปิดประเทศของจีนหลังโควิด-19 "แต่มันก็กลายเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
จากความซบเซาของอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อแสดงให้เห็นว่ายอดขายและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ จีน ลดลง ถึงแม้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ที่เปิดตัวในเมืองใหญ่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก สำหรับการฟื้นฟูภาคส่วนนี้
สำหรับอสังหาฯในเมืองระดับ tier-1 ซึ่งจะตั้งอยู่ในโซนมหานครที่เจริญมากและประชากรมีกำลังซื้อสูง แต่ราคาบ้านในเดือนตุลาคมกลับลดลงอย่างมากถึง 0.35% จากเดือนก่อนหน้า มีเพียง อสังหาฯใน หัวเมืองหลักของมณฑลต่างๆ ( tier-2) เท่านั้นที่ราคาลดลงน้อย
ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดอสังหาฯ จีนที่ตกต่ำ รัฐบาลจีนคาดว่าจะประกาศมาตรการกระตุ้นตลาดในเร็วๆ นี้ โดยตามรายงานของบลูมเบิร์ก รัฐบาลจีนกำลังวางแผนที่จะจัดหาเงินทุนต้นทุนต่ำอย่างน้อย 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 138 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ) สำหรับการปรับปรุงซ่อมแซมหมู่บ้านในเมืองและที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่แพง
ฝั่งนักเศรษฐศาสตร์บางคนกล่าวว่าแผนการของ รัฐบาลในครั้งนี้อาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าความพยายามก่อนหน้านี้ โครงการใหม่นี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ หัวเมืองใหญ่ในประเทศ ที่เวลานี้กำลัง เผชิญภาวะตลาดตกต่ำรุนแรงที่สุด ไม่ใช่ เมืองระดับล่าง ๆ ที่ราคาลดลงน้อย
อย่างไรก็ตาม วิกฤตการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนในเวลานี้ กำลังกลืนกินนักพัฒนารายใหญ่เกือบทั้งหมด ซึ่งต้องดิ้นรนในการชำระหนี้และดำเนินโครงการให้เสร็จสิ้นนับตั้งแต่วิกฤตสินเชื่อ ที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว แม้จะมีความพยายามของรัฐบาลจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม การลดลงของราคาบ้านบ่งชี้ว่าอุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงอ่อนแอ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต
อ้างอิงจาก Bloomberg