หลังจากที่ปล่อยให้สาวก Microsoft รอคอย AI ดาวเด่นของค่าย ที่พัฒนาร่วมกับ OpenAI (ผู้สร้าง ChatGPT) มานานหลายเดือน ในที่สุด ‘Copilot’ ผู้ช่วย AI ที่ทำได้ทั้งงานเอกสาร งานอาร์ต งานภาพ ฯลฯ ได้ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ผู้ใช้งาน Windows 11 ได้อัพเดตและใช้งานได้ในวันที่ ‘26 ก.ย.’ นี้ จัดเต็มฟีเจอร์สำคัญที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์บน Windows ของผู้ใช้ถึง 150 ฟีเจอร์ และเตรียมเปิดให้ผู้ใช้งานแบบองค์กรได้สัมผัสกับ Microsoft 365 ในวันที่ ‘11 พ.ย.’
Copilot จาก Microsoft ทำอะไรได้บ้าง?
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: Copilot สามารถผสานเข้ากับ Windows 11 และ Microsoft 365 ได้อย่างราบรื่น พร้อมช่วยเหลืองานด้านต่างๆ ในบริบทที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การสร้างเอกสารไปจนถึงการกำหนดตารางการประชุม
- ยกระดับความคิดสร้างสรรค์: Copilot ไม่เพียงเสริมประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น แต่ยังนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ในด้านความคิดสร้างสรรค์ ติดอาวุธให้โปรแกรม/แอปประจำ Windows อย่าง Paint และ Photos เสริมความเทพด้วย AI ให้เหล่านักสร้างสรรค์สามารถใช้โปรแกรมเหล่านี้ สร้างผลงานใหม่ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
- Search แบบอัจฉริยะ : Copilot ไม่ใช่แค่เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเท่านั้น แต่ยังเป็นทรัพยากรล้ำค่าสำหรับการค้นหาเว็บและการวิจัยอย่างชาญฉลาด ช่วยให้การค้นหาข้อมูลง่ายขึ้น แม่นยำมากขึ้น
- ใช้ AI ช่วยสร้างงานอาร์ต : ด้วย Copilot ผู้ใช้จะสามารถสร้างภาพ และคอนเทนต์บนโซเชียลที่น่าตื่นตาตื่นได้ ผ่านโปรแกรม Designer และ DALL-E 3 ซึ่งเป็นโมเดลการสร้างภาพที่ล้ำสมัย และโด่งดังที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของวงการในตอนนี้
Microsoft Copilot นับเป็นก้าวสำคัญบนสมรภูมิ AI ของบริษัท สะท้อนความทุ่มเทที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม AI ตอบสนองความต้องการทั้งผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีตัวยงหรือผู้ใช้ทั่วไป Copilot ก็สามารถเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในโลกดิจิทัลให้กับผู้ใช้ได้ทุกระดับ
สำหรับผู้ใช้งานองค์กร Microsoft ได้ประกาศเปิดราคา Microsoft 365 Copilot ซึ่งมีลูกเล่นเยอะกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า เช่น การสรุปไฮไลต์การประชุมบน Microsoft Team ให้แบบเรียลไทม์ การอธิบายขั้นตอนและที่มาของการคาดการณ์ทิศทางตลาด จากไฟล์ Excel ของบริษัท โดยสนนราคาที่ 30 ดอลลาร์ (1,080 บาท) ต่อคน สำหรับบัญชีพรีเมียม อ้างอิงจากการประกาศเมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา