ธุรกิจการตลาด

กสทช. นัดเคาะดีล "TRUE-DTAC" 12 ต.ค. นี้

23 ก.ย. 65
กสทช. นัดเคาะดีล "TRUE-DTAC" 12 ต.ค. นี้

กสทช. เตรียมประชุมนัดชี้ชะตาดีลควบรวม "ทรู-ดีแทค" วันพุธที่ 12 ตุลาคมนี้ หลังกฤษฎีกาตีความรอบ 2 ยืนยัน "เป็นอำนาจของ กสทช. ในการพิจารณาดีลควบรวม"

 

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการควบรวมธุรกิจระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ว่า คณะกรรมการกสทช.ได้กำหนดไว้ในวาระการประชุมปกติเพื่อตัดสินใจเรื่องควบรวมในวันที่ 12 ต.ค. นี้ และคาดว่าอาจจะมีการแถลงข่าวทันทีโดยประธานกสทช. เนื่องจากในการกำหนดหลักเกณฑ์ต้องเป็นคณะกรรมการกสทช.เท่านั้น

ส่วนการที่สภาองค์กรของผู้บริโภค ยื่นหนังสือเพื่อให้สอบตนเองนั้น ยืนยันว่าทำตามหน้าที่ ทำตามกฎหมาย โดยสำนักงานฯ มีหน้าที่ในการรวบรวมเอกสารให้คณะกรรมการกสทช.พิจารณาเท่านั้น และขอยืนยันว่าไม่ได้ทำเอกสารหลุดและให้ข่าวต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด

ด้านพ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประธานกสทช. กล่าวว่า หลังจากได้รวบรวมข้อมูล รวมถึงข้อสรุปการตีความตามกฤษฎีกาที่ได้รวบรวมข้อมูลครบถ้วนแล้ว จะนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการกสทช. วันที่ 12 ต.ค. ซึ่งเป็นการประชุมปกติและเป็นการพิจารณาเรื่องควบรวมโดยเฉพาะ ซึ่งรายละเอียดจะพิจารณาตั้งแต่ข้อกฎหมาย การอนุญาตหรือไม่อนุญาต และมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมธุรกิจของผู้ขอควบรวม ดังนั้น คาดว่าหากในที่ประชุมมีมติเสร็จสิ้นในเรื่องนี้ จะมีการประกาศให้ทราบทั่วกันหลังการประชุมวันดังกล่าว

 

กฤษฎีกาเปิดทาง "เป็นดุลยพินิจของ กสทช."

จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ กสทช. ทำหนังสือขอความเห็นจาก "คณะกรรมการกฤษฎีกา" ต่อการควบรวมกิจการระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ซึ่งถือเป็น "ครั้งที่ 2" ที่ได้มีการขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความกรณีดังกล่าวนั้น

ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นส่งถึงสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและสำนักงาน กสทช. เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ยืนยันความเห็นเดิมว่า "ข้อหารือเกี่ยวกับการควบรวมกิจการดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ดุลพินิจตามกฎหมายของ กสทช." คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงไม่อาจให้ความเห็นในส่วนที่เป็นการใช้ดุลพินิจ รวมทั้งการกำหนดมาตรการหรือเงื่อนไขต่างๆ อันเป็นหน้าที่และอำนาจของ กสทช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระได้

สำหรับกรณีที่มีคำถามเกี่ยวกับความสับสนว่า กสทช.จะใช้อำนาจภายใต้ประกาศ กสทช.ที่เกี่ยวข้องกับกรณีควบรวมฉบับไหน ปีไหนดีนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่า "การดำเนินการใดๆ ที่เป็นการรวมธุรกิจ ต้องดำเนินตามประกาศฉบับปี 2561 ซึ่งยังมีผลบังคับอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งภายใต้ประกาศปี 2561 กำหนดให้การรวมธุรกิจกระทำได้ โดยจัดทำรายงานส่งให้ กสทช. ซึ่งต้องรายงานล่วงหน้าและหลังการควบรวม โดยให้ถือว่ารายงานดังกล่าวเป็นการขออนุญาตไปในตัวเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ควบรวมธุรกิจ จะได้ไม่ต้องยื่นคำขอซ้ำซ้อน"

โดยความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกาล่าสุดดังกล่าว ได้ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมบอร์ด กสทช. วันที่ 21 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมาด้วย

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT