ธุรกิจการตลาด

PTT ร่วมพัฒนา E-Bus รถไฟฟ้าผลิตในไทย เปิดตัวใช้รับ-ส่งพนักงาน

26 ม.ค. 65
PTT ร่วมพัฒนา E-Bus รถไฟฟ้าผลิตในไทย เปิดตัวใช้รับ-ส่งพนักงาน

ปตท. จับมือพาร์ทเนอร์ "สกุลฎ์ซี" ร่วมพัฒนาพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ E-Bus รถไฟฟ้าผลิตในไทย ตัวถังรถผลิตจากอลูมิเนียมขึ้นรูปพิเศษมีความปลอดภัยสูง ใช้ทดลองรับ-ส่งพนักงาน ในกลุ่ม หากผลตอบรับดีเล็งผลิตขายเชิงพาณิชย์

 

26 มค. 65 ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวกับทีมงาน "SPOTLIGHT" กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมมือบริษัทบริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด (SakunC) ผ่านบริษัทลูกของ ปตท. คือ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ร่วมกันพัฒนารถโดยสารพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ หรือ E-Bus ที่ผลิตในประเทศ ตัวถังผลิตจากอลูมิเนียมขึ้นรูปพิเศษ โดยผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ

 

อีกทั้งเป็นเสริมศักยภาพการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และสนับสนุนให้ประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยพลังงานสะอาด โดยในเบื้องต้นจะผลิตและเปิดตัวทดลองใช้รับส่งพนักงานในกลุ่ม ปตท. รวมถึงบุคลากรกระทรวงพลังงาน และประชาชนทั่วไปที่มาติดต่องาน ทั้งนี้บริษัทจะมีการศึกษาความต้องการของตลาด รวมถึงผลตอบรับการใช้งานหากออกมาดีก็แผนต่อยอดในการผลิตรถยนต์ E-Bus ในเชิงพาณิชย์ต่อไป

 

สำหรับความคืบหน้ากรณีที่ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ปตท. ถือหุ้น 100% ได้ลงนามสัญญาร่วมทุนและจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท ลี่ยี่อินเตอร์เนชั่นแนลอินเวสเมนท์ จำกัด (Lin Yin) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด (Hon Hai Precision Industry Co., Ltd.) หรือ ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ถือหุ้นทั้งหมด ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 3,220 ล้านบาท โดย Arun Plus ถือหุ้นในสัดส่วน 60% และ Lin Yin และ ถือหุ้นในสัดส่วน 40%
ในปีนี้มีแผนจะเริ่มลงทุนสร้างโรงงานในเฟส 1 มูลค่าลงทุนประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์

 

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ผู้บริหาร ปตท.เคยให้ข้อมูลว่า โครงการร่วมทุนของ ปตท.กับฟ็อกซ์คอนน์ เพื่อพัฒนาและผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้นจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ปี ในการเตรียมพร้อมและเริ่มผลิตออกสู่ตลาด โดยมีเป้าหมายการผลิตในระยะแรก 50,000 คัน/ปี และขยายเป็น 150,000 คัน/ปี

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท. เร่งพัฒนาและปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ทิศทางพลังงานในอนาคต ซึ่งจะมุ่งเน้นเทรนด์หลักที่สำคัญของโลก 2 ด้าน คือ Go Green และ Go Electric โดยจะยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนด้าน EV Value Chain ของกลุ่ม ปตท. ให้ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต และพร้อมพัฒนาเทคโนโลยีการใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

 

โดยที่ผ่านมา ปตท. ได้จับมือพันธมิตรทางธุรกิจ ในการพัฒนา EV Charging Station, EV Platform, การตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ทั้ง 4 ล้อ และ 2 ล้อ และประเภทอื่น ๆ ดังนั้น การร่วมมือกับ EnCo ในการนำ E-Bus รุ่นใหม่ ซึ่งพัฒนานวัตกรรมตัวถังและโครงสร้างจากอลูมิเนียมสมัยใหม่ที่ผลิตในประเทศไทย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พร้อมระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารครบครัน

 

สำหรับให้บริการรับส่งบุคลากรและประชาชนทั่วไปที่มาติดต่องานในกลุ่ม ปตท. ถือเป็นต้นแบบนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านพลังงานอนาคต ที่จะช่วยผลักดันระบบนิเวศการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตามทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ และสอดรับกับวิสัยทัศน์ใหม่ “Powering Life with Future Energy and Beyond” ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังงานแห่งอนาคต

 

นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) กล่าวว่า การลงทุนพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นยานยนต์สาธารณะ เช่น รถบัส รถจักรยานยนต์ หรือ เรือโดยสาร ล้วนเป็นการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งสาธารณะ ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตในประเทศได้พัฒนาการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ระบบแบตเตอรี่ ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่การสร้างระบบขนส่งของไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับการพัฒนา E-Bus เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ ARUN PLUS ที่ต้องการตอบโจทย์การสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ประกอบ จัดจำหน่าย ตลอดจนการขายและให้บริการหลังการขาย ซึ่ง ARUN PLUS กำลังเดินหน้าหาเครือข่ายทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือเอกชน เพื่อพัฒนาตลาดยานยานต์ไฟฟ้าสาธารณะไปด้วยกัน

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT