ใครจะคิดว่า "ชาไทย" เครื่องดื่มคู่ใจคนไทย จะถูกยกระดับสู่ความพรีเมียม จนก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่ใครๆ ก็รู้จัก และสามารถสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท! นี่คือเรื่องราวความสำเร็จของ "การัน" (Karun) แบรนด์ชาไทยที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ยังมีกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่น่าสนใจ จากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่าย ด้วยสูตรชาไทยของคุณแม่ สู่การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดชาไทยระดับพรีเมียม "การัน" พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "ความรัก" และ "ความใส่ใจ" สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
การัน (Karun) ชาไทยระดับพรีเมียม ที่ทำรายได้ระดับ 100 ล้าน
กว่าจะมาเป็น การัน "Karun" ร้านชาไทยที่ใครๆ ก็ติดใจ ไม่ได้เริ่มต้นจากความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่เริ่มจาก "ความรัก" ในรสชาติชาไทยของคุณแม่คุณรัสต่างหาก ย้อนกลับไปในปี 2541 ด้วยความที่เป็นคอชาไทยตัวยง คุณแม่จึงทุ่มเทเวลาและความใส่ใจในการเฟ้นหาส่วนผสมที่ลงตัว เพื่อให้ได้ชาไทยรสชาติกลมกล่อมถูกปากทุกคนในครอบครัว
สูตรลับที่ไม่เหมือนใครนี้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น นับเป็นเวลากว่า 20 ปี จนกระทั่งปี 2562 คุณรัสได้นำ "มรดกตกทอด" ทางรสชาตินี้มาต่อยอด สร้างสรรค์เป็นแบรนด์ "การัน" เริ่มต้นจากการขายผ่านแอปดิลิเวอรี เหมือนเป็นการแบ่งปันรสชาติแห่งความสุขให้คนอื่นๆ ได้ลิ้มลอง จนได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้ตัดสินใจเปิดหน้าร้านสาขาแรกในเวลาต่อมา
จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในครอบครัว สู่ร้านชาไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปัจจุบันการันมีทั้งหมด 11 สาขา แต่ละสาขายังคงรักษามาตรฐานรสชาติความอร่อยแบบดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น พร้อมเสิร์ฟชาไทยรสชาติ "เหมือนชงให้คนในบ้านดื่ม" ให้ลูกค้าได้สัมผัสความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ ในทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง
มากกว่าชื่อ "การัน" จากสูตรลับในบ้าน สู่ตำนานชาไทยที่ทุกคนต้องลอง
ชื่อ "การัน" ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องหมายการค้า แต่เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงคุณค่าและเรื่องราวอันทรงคุณค่าของครอบครัว คุณธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ได้นำชื่อ "บ้านการัน" อันเป็นมรดกตกทอดจากคุณปู่ มาใช้เป็นชื่อแบรนด์ชาไทยระดับพรีเมียมนี้ คำว่า "การัน" ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อบ้าน แต่เป็นชื่อมงคลที่คุณปู่ได้คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีความหมายแฝงถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย และความเจริญรุ่งเรือง เสมือนเป็นพรอันประเสริฐสำหรับลูกหลานให้มีชีวิตที่สุขสมบูรณ์
คุณธัญย์ณภัคช์จึงนำชื่ออันเป็นมงคลนี้มาใช้เป็นชื่อแบรนด์ เพื่อสื่อถึงความผูกพันอันแน่นแฟ้นกับครอบครัว และความมุ่งมั่นที่จะส่งต่อรสชาติแห่งความสุขที่เริ่มต้นจาก "บ้าน" ให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง เสมือนเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ความอบอุ่น และความทรงจำอันงดงาม ผ่านทุกหยดของชาไทย "การัน"
Karun ปฏิวัติวงการชาไทย สู่แบรนด์ระดับพรีเมียมที่ใครๆ ก็หลงรัก
แม้ "ชาไทย" จะเป็นเครื่องดื่มที่หาได้ทั่วไป แต่ "การัน" เล็งเห็นถึงศักยภาพในการยกระดับเครื่องดื่มชนิดนี้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม คุณธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ "การัน" ได้ทำการศึกษาตลาดชาไทยอย่างละเอียด พบว่ายังไม่มีผู้ประกอบการรายใดที่มุ่งเน้นการนำเสนอชาไทยในรูปแบบเฉพาะทาง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ "การัน" ร้านชาที่นำเสนอ "ชาไทย" เป็นผลิตภัณฑ์หลัก
อย่างไรก็ตาม "การัน" ไม่ได้เพียงมุ่งหวังที่จะเป็นเพียงร้านชาไทยทั่วไป แต่มีวิสัยทัศน์ที่จะยกระดับประสบการณ์การดื่มชาไทยให้เหนือระดับ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม การรังสรรค์สูตรชาไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและการเลือกทำเลที่ตั้งร้านที่สะท้อนถึงความพิถีพิถัน
นอกจากนี้ "การัน" ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำเสนอเมนูชาไทยรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำใคร รวมถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์พิเศษในโอกาสต่างๆ อาทิ เทียนหอมกลิ่นชาไทย หรือบาธบอมกลิ่นชาไทย ซึ่งล้วนเป็นส่วนประกอบที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของ "การัน" ให้เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบชาไทยอย่างแท้จริง และ แม้ราคาของผลิตภัณฑ์ "การัน" อาจจะสูงกว่าชาไทยทั่วไป แต่ด้วยคุณภาพและประสบการณ์ที่เหนือกว่า ทำให้ "การัน" สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มูลค่าที่แท้จริงของชาไทยนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา แต่ขึ้นอยู่กับคุณภาพและประสบการณ์ที่ได้รับ
กลยุทธ์สร้างแบรนด์ชาไทยระดับพรีเมียม สู่ความสำเร็จ 100 ล้าน
สำหรับการวางกลยุทธ์อย่างรอบด้านของคุณ คุณรัส-ธัญย์ณภัคช์ ศิริประภาเจริญ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ที่ได้วางตั้งแต่การออกแบบสีของแก้วที่เป็นเอกลักษณ์ การสร้างสรรค์แพ็กเกจจิ้งที่หรูหรา การตกแต่งร้านที่สวยงามน่าถ่ายรูป ไปจนถึงการสร้างภาพลักษณ์องค์กร (Corporate Identity) ที่โดดเด่นและสอดคล้องกัน
นอกจากนี้ การเลือกทำเลที่ตั้งร้านยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ "การัน" ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเลือกเปิดสาขาในย่านใจกลางเมือง แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่มีกำลังซื้อและพร้อมที่จะจ่ายเพื่อประสบการณ์ชาไทยระดับพรีเมียม อาทิ Gaysorn Village, EmQuartier, Siam Paragon, centralwOrld, Empire Tower และ Park Silom ซึ่งปัจจุบัน "การัน" มีทั้งหมด 15 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ระดับพรีเมียมนี้ ส่งผลให้ "การัน" ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยบริษัท การัน เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ชาไทย "การัน" สามารถพลิกจากการขาดทุนในช่วงแรก มาเป็นการทำกำไรได้อย่างน่าประทับใจ โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง จนเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในวงกว้าง
ผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีของ บริษัท การัน เบฟเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด
- ปี 2564 รายได้ 9.3 ล้านบาท ขาดทุน 4.1 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 26.2 ล้านบาท ขาดทุน 0.9 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 100.7 ล้านบาท กำไร 9.2 ล้านบาท
การเดินทางของ Karun จากสูตรชาไทยในครัว สู่การเป็นแบรนด์ระดับร้อยล้าน
แบรนด์ การัน ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวความสำเร็จทางธุรกิจ แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ของความรัก ความใส่ใจ และความมุ่งมั่น ที่สามารถเปลี่ยนสิ่งเล็กๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ "การัน" ไม่ได้ขายแค่ชาไทย แต่ขาย "ประสบการณ์" และ "ความทรงจำ" ที่มีคุณค่า รสชาติที่คุ้นเคย ความอบอุ่นที่สัมผัสได้ และความภาคภูมิใจในแบรนด์ไทย ทำให้ "การัน" กลายเป็นมากกว่าร้านชา แต่เป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนรักชาไทย
เรื่องราวของ "การัน" เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่กำลังมองหาหนทางสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ เพียงใด ขอเพียงมีความรักในสิ่งที่ทำ ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา และความกล้าที่จะแตกต่าง ก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน และนี่คือเรื่องราวของ "การัน" แบรนด์ชาไทยที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ยังมีหัวใจที่ยิ่งใหญ่
ที่มา Karun Thai Tea และ hellomagazine และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า