ธุรกิจการตลาด

ธุรกิจตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะตาย 10 ปีที่ผ่านมา ปิดตัวไปแล้ว 8,000 แห่ง

16 เม.ย. 67
ธุรกิจตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะตาย 10 ปีที่ผ่านมา ปิดตัวไปแล้ว 8,000 แห่ง

ตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะสูญหาย แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่สนับสนุนธุรกิจนี้มาอย่างยาวนานที่สุดก็ตาม ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีการปิดตัวตู้เกมไปแล้วมากกว่าแปดพันแห่ง

ธุรกิจตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะตาย 10 ปีที่ผ่านมา ปิดตัวไปแล้ว 8,000 แห่ง

ธุรกิจตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะตาย 10 ปีที่ผ่านมา ปิดตัวไปแล้ว 8,000 แห่ง

แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่รู้จักกันดีว่าสนับสนุนตู้เกมมายาวนานที่สุด แต่กลับมีการบันทึกว่าห้องเกมจำนวนมากได้ปิดตัวลงไป จากรายงานของทาง Teikoku Databank ในปีงบประมาณ 2023 มีร้าน Game centers ที่ล้มลายไปในญี่ปุ่นมากสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และดูเหมือนมันจะมากขึ้นทุกปี หากจะดูในเชิงตัวเลข ในปีงบประมาณที่ผ่านมา มีการล้มละลายของกิจการ "Game centers" ในญี่ปุ่นถึง 18 ครั้ง นอกจากนี้ก่อนปี ค.ศ. 2020 ตัวเลขการลดลงของศูนย์ตู้เกมอยู่ที่ประมาณ 30% และจำนวนร้านเกมอาร์เคดลดลงเกือบ 8,000 แห่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการขึ้นราคาของการเล่นเกมในแต่ละครั้้ง

ธุรกิจตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะตาย 10 ปีที่ผ่านมา ปิดตัวไปแล้ว 8,000 แห่ง

นอกจากนี้ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เราเห็นกรณีนี้ได้จากที่ SEGA Clubs ซึ่งเป็นห้างเกม arcadesสุดโด่งดังที่ต้องปิดตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญอีกอย่างคือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้พีซีและเครื่องเล่นคอนโซลในปัจจุบันสามารถให้ประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมได้จากในบ้าน รู้หรือไม่ ธุรกิจตู้เกม arcades รุ่งเรืองมากในปี 1986 เวลานั้นมีธุรกิจตู้เกมมากกว่า 26,000 แห่งทั่วประเทศ แต่พอถึงปี 2019 ตัวเลขกลับลดลงจนเหลือเพียง 4,000 กว่าแห่งเท่านั้น

ตู้เกมและห้างเกมกำลังจะกลายเป็นอดีต

แม้ว่าประเทศจะฟื้นตัวจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่กระแสตู้คีบตุ๊กตาและกล่องสุ่มกลายเป็นที่นิยม ทำให้ตู้เกมแบบดั้งเดิมดึงดูดลูกค้าได้ยากขึ้น

ธุรกิจตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะตาย 10 ปีที่ผ่านมา ปิดตัวไปแล้ว 8,000 แห่ง

นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งภาษีการบริโภค ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเหรียญ และค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลจาก Teikoku Databank ชี้ให้เห็นว่า กำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจหลัก อยู่ที่เพียง 6 เยนต่อยอดขาย 100 เยนโดยเฉลี่ย

นอกจากราคาเกมคอนโซลแล้ว ราคางานรางวัลสำหรับตู้คีบตุ๊กตาก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ธุรกิจตู้เกมเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก ศูนย์เกมขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีผลกำไรลดลง กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะต้องปิดตัวลง

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมเกม และบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของตู้เกมในสังคม ตู้เกมเคยเป็นสถานที่สำหรับผู้คนมาพบปะสังสรรค์ เล่นเกม และแข่งขันกัน แต่ปัจจุบัน ผู้คนสามารถเล่นเกมเหล่านี้ได้จากที่บ้าน บนคอนโซลหรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

สรุปปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะสูญหาย

ธุรกิจตู้เกมญี่ปุ่นกำลังจะตาย 10 ปีที่ผ่านมา ปิดตัวไปแล้ว 8,000 แห่ง

  • การแข่งขันจากตู้คีบตุ๊กตาและกล่องสุ่ม: รูปแบบความบันเทิงเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น สร้างแรงกดดันต่อตู้เกมแบบดั้งเดิม
  • ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น: การเพิ่มภาษีการบริโภค ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนเหรียญ และค่าไฟฟ้า ล้วนส่งผลต่อกำไรของธุรกิจ
  • กำไรที่ต่ำ: กำไรจากการดำเนินงานของตู้เกมโดยเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 6 เยนต่อยอดขาย 100 เยน

อนาคตของตู้เกมยังไม่แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ตู้เกมแบบดั้งเดิมกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมีนัยสำคัญ ศูนย์เกมที่สามารถอยู่รอดได้ จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง โดยนำเสนอประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากการเล่นเกมที่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้น อย่างน้อยเราก็ยังสามารถหวนกลับไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ได้ผ่านทางเกมซีรีส์ Yakuza / Like a Dragon และเกมภาคแยกอย่าง Judgment

ที่มา gamer.ne.jp และ pledgetimes

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT