ธุรกิจการตลาด

รู้จัก Real X Token มี 182 บาท ก็ซื้อคอนโดกินค่าเช่าได้ รับประกันรายรับ 4-5% ต่อปี

25 ก.ย. 66
รู้จัก Real X Token มี 182 บาท ก็ซื้อคอนโดกินค่าเช่าได้ รับประกันรายรับ 4-5% ต่อปี

RealX Investment Token โทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นคอนโดหรู “พาร์ค ออริจิ้น” พร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ เปิดตัวด้วยราคาเหนือจองที่ 195 บาท/โทเคน มากกว่าราคา ICO 7.14% หลังเริ่มซื้อขาย ขึ้นแท่นเป็นสินทรัพย์แรกบนศูนย์ขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย หรือ TDX ภายใต้การดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับใครที่สนใจอยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้วอยากปล่อยเช่าเป็นเสือนนอนกิน ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือ การขาดเงินทุน เพราะสินทรัพย์ประเภทนี้ใช้เงินก้อนใหญ่มากในการซื้อ อีกทั้งซื้อมาแล้วก็ยังต้องดูแล จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และคัดหาคนมาเช่า ทำให้ผู้ที่จะซื้อคอนโดปล่อยเช่าได้ต้องใช้ทั้งเงินทุนทั้งเวลามาดูแลสินทรัพย์มากพอสมควร

แต่ในปัจจุบัน ปัญหานี้อาจหมดไปแล้วด้วยนวัตกรรม Tokenization หรือการออกดิจิทัลโทเคนโดยใช้สินทรัพย์จริงๆ มาอ้างอิง ทำให้ผู้ออกโทเคนสามารถแตกสินทรัพย์ขนาดใหญ่ออกเป็นโทเคนขนาดเล็กที่ราคาถูกลง ทำให้นักลงทุนรายเล็กมีเงินทุนพอร่วมเป็นเจ้าของเศษเสี้ยวของสินทรัพย์นี้ได้ โดยไม่ต้องทุ่มเงินลงไปจำนวนมากเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์หนึ่งที่

ด้วยเหตุนี้เอง บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยจึงร่วมมือกับบริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X บริษัทภายใต้กลุ่มธุรกิจทางการเงินเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) และ บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด เพื่อออก RealX Token โทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นห้องคอนโดหรูของออริจิ้นในสามทำเลคือ พร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ รวม 244 ยูนิต เพื่อเปิดให้นักลงทุนรายย่อยร่วมเป็นเจ้าของคอนโดหรูได้ในระดับ “ตารางนิ้ว” 

โดยในช่วง 1-31 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด ผู้ออก RealX ได้มีการเสนอขายโทเคน RealX แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) แล้วที่ราคาโทเคนละ 182 บาท จำนวนทั้งสิ้น 13,186,813 โทเคน รวมมูลค่า 2,400 ล้านบาท 

จากผลตอบรับที่ดี ล่าสุดบริษัทจึงได้นำโทเคนดิจิทัล RealX เข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในวันที่ 25 กันยายน ใน TDX และศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub

1stdayrealx

 

RealX แตกต่างจากคริปโทเคอร์เรนซีธรรมดาอย่างไร?

ในตอนนี้หากใครได้ยินคำว่าดิจิทัลโทเคนอาจจะรู้สึกไม่เชื่อมั่น เพราะนึกไปถึงคริปโทเคอร์เรนซี เช่น บิตคอยน์ หรือ NFT ซึ่งเป็นโทเคนอีกประเภทที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เพราะไม่ผูกกับสินทรัพย์ใดๆ ในโลกจริงเลย ทำให้ราคาผันผวน และเสี่ยงขาดทุนสูง

อย่างไรก็ตาม RealX ไม่ใช่ทั้งคริปโทเคอร์เรนซีและ NFT แต่เป็น Investment Token หรือโทเคนเพื่อการลงทุนที่มีมูลค่าผูกกับสินทรัพย์จริง ซึ่งในกรณีนี้ ก็คือ ห้องชุดในโครงการคอนโดมิเนียมหรู “พาร์ค ออริจิ้น” บนทำเล CBD (Central Business District) 3 ทำเล พร้อมพงษ์ พญาไท และทองหล่อ รวม 244 ยูนิต ที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  ประกอบไปด้วย 

  1. โครงการพาร์คออริจิ้นพร้อมพงษ์ (Park Origin Phrom Phong) จำนวน 93 ห้อง
  2. โครงการพาร์คออริจิ้นพญาไท (Park Origin Phayathai) จำนวน 84 ห้อง
  3. โครงการพาร์คออริจิ้นทองหล่อ (Park Origin ThongLo) จำนวน 67 ห้อง

park-origin-phromphong

เมื่อได้พื้นที่เหล่านี้มาแล้ว สิ่งที่ผู้ออกเหรียญทำคือนำพื้นที่ของห้องเหล่านี้มามัดรวมกัน แล้วคิดราคาเฉลี่ยซึ่งรวมทั้งค่าห้อง และค่าดูแลรักษา และค่าจัดการปล่อยเช่าไว้ ออกมาเป็นราคาต่อตารางนิ้ว เพื่อแปลงพื้นที่ออกมาเป็น 1 RealX Token ซึ่งมีมูลค่าตามมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์จริง 

นี่ทำให้ 1 โทเคนสามารถแทนความเป็นเจ้าของพื้นที่คอนโดมิเนียมนั้นจริงๆ แต่ RealX จะไม่เหมือนกับการถือโฉนดที่ดินโดยทั่วไป เพราะเมื่อมันอยู่ในรูปดิจิทัลโทเคนแล้ว การซื้อขายแลกเปลี่ยนมือจะสะดวกขึ้นมาก โดยสามารถซื้อขายได้ 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 โมงต่อสัปดาห์ เสมือนเป็นการปลดล็อกให้คนซื้อขายอสังหากันโดยไม่ต้องใช้เอกสาร ไม่กำจัดเวลา

 

ซื้อ RealX แล้วได้ประโยชน์อย่างไร?

ผู้ถือโทเคนสามารถได้รับผลตอบแทนจากการถือ RealX ได้หลากหลายทางด้วยกัน คือ นอกจากผู้ถือจะสามารถซื้อเหรียญมาแล้วขายไปเพื่อเอากำไรส่วนต่างเหมือนการซื้อขายหุ้นธรรมดาได้แล้ว ผู้ถือโทเคนในฐานะหนึ่งในเจ้าของห้องย่อมสามารถได้ส่วนแบ่งรายได้จากการปล่อยเช่าของพื้นที่นั้น

โดยจากข้อมูลของ TDX การจ่ายผลตอบแทนจากการบริหารจัดการทรัพย์สินของโครงการให้แก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัลแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือ

1. ปีที่ 1-5 ผู้ถือโทเคนจะได้รับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิของห้องชุดทั้ง 3 โครงการที่เป็นสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งบริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จะรับประกันรายรับสุทธิของโครงการที่ 4% 4.25% 4.50% 4.75% และ 5% ต่อปีของมูลค่าเสนอขายโทเคนดิจิทัลฯ ตามลำดับ

การคิดรายได้จะไม่คิดแยกเป็นห้อง เพราะถือว่าผู้ถือทุกคนเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดร่วมกัน ทำให้เมื่อได้ค่าเช่าสุทธิมาแล้ว เงินจำนวนนั้นจะถูกนำมาหารเป็นค่าตอบแทนที่เท่ากันสำหรับผู้ถือ RealX ทุกคน

2. ปีที่ 6-10 ห้องชุดจะถูกนำมาขายในราคาตลาดช่วงนั้น ๆ และจ่ายคืนแก่ผู้ถือโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “เรียลเอ็กซ์” ตามสัดส่วนการลงทุนตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป โดยคาดว่าราคาขายห้องชุดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตจากที่ดินในเมืองรองรับการพัฒนาโครงการที่มีจำกัด และในขณะเดียวกันยังคงได้รับผลตอบแทนตามจริงเป็นรายไตรมาสจากคอนโดฯ ที่มีผู้เช่า

ดังนั้น RealX จึงถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจอีกทางหนึ่ง เพราะมันให้โอกาสผู้ถือได้รับผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจากกระแสรายรับของห้องชุด “พาร์ค ออริจิ้น” ที่เป็นทรัพย์สินอ้างอิงของโครงการ โดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเป็นจำนวนมาก และไม่ต้องรับความเสี่ยงการหาผู้เช่าและค่าใช้จ่ายซ่อมแซมห้องชุด

95a191632b885a968e9e2c44a63b8

 

อยากซื้อ RealX ต้องทำอย่างไร?

ในปัจจุบัน RealX มีการซื้อขายอยู่ใน 2 ตลาดด้วยกัน คือ 

  1. ศูนย์ขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย หรือ TDX ในเครือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 
  2. ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub ภายใต้บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในเครือบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด

ดังนั้น ผู้ใดที่ต้องการซื้อขาย RealX สามารถสมัครสมาชิกในแพลตฟอร์มที่ต้องการได้ และเริ่มซื้อขายได้ตามปกติ 

โดย ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด และ นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X มองว่า การเปิดให้มีการซื้อขาย 2 ตลาด ข้อดี คือ เข้าถึงนักลงทุนได้หลายกลุ่ม เพราะในขณะที่ตลาด Bitkub จะเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนยุคใหม่ TDX จะเป็นตลาดที่นักลงทุนรุ่นเก่าเข้าถึงได้มากกว่า

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายใน 2 ตลาดนี้มีข้อพึงสังเกต คือ ราคาของ RealX ในสองตลาดอาจไม่เท่ากัน ตาม sentiment ในแต่ละตลาด แต่ นางสาวจิตตินันท์ เชื่อว่า “ในที่สุดแล้วราคาของ RealX ในสองตลาดจะปรับเข้าหากันเอง เพราะทั้งหมดเป็นโทเคนที่อ้างอิงในสินทรัพย์ตัวเดียวกันซึ่งมีมูลค่าของมันอยู่ และไม่น่าจะมีการทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้ เพราะ 2 ตลาดนี้ไม่เชื่อมกัน และไม่สามารถโอนย้ายเงินหรือสินทรัพย์ข้ามตลาดซื้อขายได้”






advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT