ธุรกิจการตลาด

ดอยคำ ขายไอศกรีม เปิดตัว ICE POP น้ำผลไม้ในอุณหภูมิปกติ

13 พ.ค. 66
ดอยคำ ขายไอศกรีม  เปิดตัว ICE POP น้ำผลไม้ในอุณหภูมิปกติ

“ดอยคำ” ชื่อนี้คงคุ้นเคยกับผู้ผลิตอาหารแปรรูป ที่ใช้ผลิตผลจากเกษตรกรเพื่อคนไทยและที่เป็นที่นิยมมากๆ คือใครๆไม่รู้จักในตลาดน้ำผลไม้

ล่าสุด “ดอยคำ” หันมาบุกตลาดไอศกรีม ด้วยการเปิดตัว “ICE POP”  ไอศกรีมจำหน่ายแบบอุณหภูมิปกติ เจ้าแรกในไทย! เพียงแช่ฟรีซ 8 ชั่วโมง ก็สามารถกลายเป็นไอศรีมได้ เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ 

“ICE POP” ครั้งแรกของดอยคำในการต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านน้ำผลไม้ด้วยการยกระดับความสดชื่นสู่ผลิตภัณฑ์หมวดใหม่ ICE Snack ที่จำหน่ายที่ชั้นสินค้าอุณหภูมิปกติ สามารถรับประทานเป็นไอศกรีมเมื่อแช่แข็ง (Freeze) ในตู้เย็น มองว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

ทั้งนี้ ได้นำเสนอจุดแข็งของแบรนด์ในด้านผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผลผลิตที่สดจริงจากธรรมชาติและเป็นสินค้าคุณภาพ เพิ่มความสดชื่นให้ผู้บริโภคได้ง่าย ๆ  เพียงแค่ “แช่ ฉีก ป๊อป” แช่ฟรีซ ในช่องทำน้ำแข็ง ฉีกซองรับความอร่อย และป๊อปความสุขได้ทุกช่วงเวลาที่ต้องการความสดชื่น พร้อมจัดกิจกรรมแถลงข่าว เชิญ 2 นักแสดงคู่ขวัญใจวัยรุ่น “ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์” เเละ “ภูวินทร์-ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน” ร่วมเปิดตัวความ POP ที่สุดสดชื่น ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้า สยามพารากอน

นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2566 เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และขยายโครงการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่เพิ่มมากขึ้น ดอยคำ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ICE POP” ที่มาในรูปแบบไอศกรีมจากน้ำผลไม้แท้ พร้อมแพคเกจรูปแบบใหม่ ไม่ซ้ำใคร วางจำหน่ายบนชั้นสินค้าน้ำผลไม้ในอุณหภูมิห้อง เป็นแบรนด์น้ำผลไม้เจ้าแรกของโลก และเจ้าเดียวในไทย ด้วยนวัตกรรมการผลิต เครื่องบรรจุและบรรจุภัณฑ์รุ่นTetra Fino® Aseptic ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิสินค้าโดยไม่ใช้วัตถุกันเสีย ไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาหรือขนส่งสินค้าด้วยการแช่เย็นเทคโนโลยีระบบปลอดเชื้อมาตรฐานโลกจากเต็ดตรา แพ้ค”  

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปีแรกกว่า 50 ล้านบาทหรือกว่า 30 ล้านชิ้น ในอนาคตคาดว่า “ICE POP” จะกระโดดไปบุกตลาดต่างประเทศที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความแตกต่างในตลาดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ เจเนเรชั่นวาย (Gen Y) และเจเนเรชั่นซี (Gen Z) และกลุ่มเป้าหมายรอง ได้แก่ กลุ่มที่มีอายุ 26 ปี ขึ้นไป  

พร้อมทำการตลาดแบบ Online to Offline ด้วยวิธีการสื่อสารแบบ 360 องศา ผ่านแคมเปญสื่อสารการตลาดบนนอกบ้าน (Out of Home Media) สื่อเคลื่อนที่ (Moving Ads) สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และภาพยนตร์โฆษณาชุด “ใดๆ ในโลกล้วนป๊อป” จำนวน 3 เรื่อง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากบทสนทนาของวัยรุ่นเกี่ยวกับความชอบส่วนตัว ทั้งเรื่องแนวเพลง ภาพยนตร์ และหนังสือที่ชอบ โดยเนื้อเรื่องมีการจบแบบหักมุมทำให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย สามารถรับชมพร้อมกันทั้งในแพล็ทฟอร์ม ทีวี และออนไลน์...ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็พร้อมป๊อปความสดชื่น

ทั้งนี้ เปิดตัว 3 รสชาติแรก ได้แก่ รสสตรอว์เบอร์รีทูนหัว รสบ๊วยไม่บ๊วย และรสมะม่วงฮักเสาวรส ในบรรจุภัณฑ์แบบใหม่จากบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านโซลูชันการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก  

“ICE POP” มาพร้อมสโลแกน “FREEZE ความสุข POP ความสดชื่น” กับ 3 รสชาติ ที่สดชื่น อร่อยลงตัว ได้แก่ 

  1. “บ๊วยไม่บ๊วย” (เครื่องดื่มหวานเย็นบ๊วยผสมน้ำผึ้งและมะนาว) รสชาติที่มีเอกลักษณ์ของบ๊วย ผสมผสานกับความเปรี้ยวของมะนาว และความหวานของน้ำผึ้งได้อย่างลงตัว
  2. “สตรอว์เบอร์รีทูนหัว” (เครื่องดื่มหวานเย็นสตรอว์เบอร์รี) รสชาติของ “สตรอว์เบอร์รี” สายพันธุ์พระราชทาน 80 ผลไม้ยอดนิยมที่มีรสชาติหวานหอม  
  3. “มะม่วงฮักเสาวรส” (เครื่องดื่มหวานเย็นมะม่วงผสมเสาวรส)ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความหวาน ของ “มะม่วง” และความเปรี้ยวของ “เสาวรส” จับคู่รสชาติของความอร่อยได้แบบลงตัว 

ICE POP

วิธีรับประทานเพียงแค่ “แช่ ฉีก ป๊อป” แช่ฟรีซ ในช่องทำน้ำแข็ง ฉีกซองพร้อมรับความอร่อย ป๊อปความสุขได้ทุกช่วงเวลาที่ต้องการความสดชื่น มาในรูปแบบซอง ขนาด 85 มล.

บรรจุภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้คที่ใช้บรรจุ ICE POP ผลิตจากกระดาษจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ซึ่งผ่านการรับรองจากองค์การจัดการด้านป่าไม้ โดยดูได้จากฉลาก FSC บนบรรจุภัณฑ์ มีบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อีกทั้งจัดจำหน่ายในรูปแบบอุณหภูมิห้องง่ายต่อการบริหารจัดการด้านการขนส่ง จึงช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากสู่ชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นปัญหากับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กล่าวว่า "ธุรกิจไอศกรีม" ในประเทศไทยกลับยังดำเนินต่อไปได้แถมมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกด้วย โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดกว่า 15,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก บริษัท โกลเบิล ดาต้า จำกัด) ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าประเภทไอศกรีม เป็นอันดับ 4 ของโลก

กล่าวคือ ICE POP ไอศกรีมที่จำหน่ายวางขายแบบอุณหภูมิปกติ ก็อาจเป็นหนึ่งที่ทำให้ร้านค้าสามารถขายได้ง่ายขึ้น และในแง่ของลูกค้าก็จะสะดวกในการซื้อไปทาน แบบไม่ต้องกังวลว่า ไอศกรีมจะละลาย หากต้องการนำกลับมาทานที่บ้าน แต่สำหรับผู้ที่ต้องการทานทันทีอาจต้องซื้อในร้านค้าที่นำ ICE POP แช่ไว้ให้พร้อมรับประทาน 

advertisement

SPOTLIGHT