อุตสาหกรรมชิปในช่วงหลังปั่นป่วนหนักจากหลายปัญหา ล่าสุุดมีรายงานข่าวว่า บริษัท อินเทล ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ ประกาศเลิกจ้างพนักงานนับพันคนเพื่อเป็นการลดต้นทุนหลังจากตลาดพีซีชะลอตัวลงอย่างหนัก การประกาศดังดล่าวมีขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนนีั้ และคาดว่าจะผลในช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อินเทลจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2565
การลดพนักงานในบางแผนก ซึ่งรวมถึงฝ่ายขายและการตลาด อาจเผชิญกับการปรับลดพนักงานประมาณ 20% โดยตัวเลรวมขจองพนักงานอินเทล ถึงสิ้นเดือน ก.ค.มีพนักงานจำนวน 113,700 คน
อินเทล กำลังเผชิญกับปัญหาความต้องการชิปพีซีที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และเผชิญความยากลำบากในการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดที่สูญเสียไปให้กับคู่แข่งอย่างบริษัทแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ โดยในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา อินเทลเตือนว่า ยอดขายในปี 2565 จะต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ของอินเทลในไตรมาส 3 ลดลงประมาณ 15% ซึ่งนอกจากความต้องการPC ที่ลดลงแล้ว ราคาขาย PC ก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญอีกด้วย
ทั้งนี้พบว่า อินเทลเคยเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่ล่าสุดเมื่อปี 2559 โดยบริษัทปรับลดจำนวนพนักงานถึง 12,000 ตำแหน่งหรือ 11% ของทั้งหมด จากนั้นอินเทลได้ดำเนินการปรับลดพนักงานมาเรื่อยๆรวมไปถึงปิดแผนกต่าง ทั้งโมเด็มมือถือ และโดรน
นอกจากนี้อินเทลยังประกาศระงับการจ้างงานใหม่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ย่ำแย่ลง และมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ราคาหุ้นของอินเทลร่วงลงมาแล้วมากกว่า 50% ในปี 2022 และลดลงหนักราว 20% เดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียว
อุตสาหกรรมผู้ผลิตชิปกำลังวิกฤติ เมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มีการเปิดเผยกฎระเบียบใหม่เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) จำกัดการขายเซมิคอนดักเตอร์และเครื่องมือผลิตชิปของสหรัฐฯ ให้แก่บริษัทของจีน ซึ่งข่าวนี้ก็ทำให้ราคาหุ้นของผู้ผลิตชิปปรับตัวร่วงลง ซึ่งรวมถึง อินเทล ที่หุ้นร่วงไป 5.4% ในวันนั้นด้วยเช่นกัน
พูดถึงการสร้างการผลิตในสหรัฐฯ
โดยพูดที่โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของ Intel แห่งใหม่ใกล้กับนิวอัลบานี รัฐโอไฮโอ