ธุรกิจการตลาด

เมื่อ BYD บุกไทย ไปรู้จักบริษัท Rêver Automotive ผู้ปั้นรถอีวีจีนในไทย

8 ส.ค. 65
เมื่อ BYD บุกไทย ไปรู้จักบริษัท Rêver Automotive ผู้ปั้นรถอีวีจีนในไทย

รู้จักบริษัทใหม่ "เรเว่ ออโตโมทีฟ" ของกลุ่ม "พรประภา" ผู้นำเข้า BYD รถยนต์อีวีเบอร์ 1 ของโลกจากจีน และประกาศจะขึ้นท็อป 5 ของไทยใน 5 ปี


นับเป็นข่าวใหญ่ของวงการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เมื่อ BYD บริษัทรถอีวีเบอร์ 1 ในโลกจาก "จีน" จะเริ่มบุกตลาดประเทศไทย อย่างเป็นทางการในปีนี้

และพาร์ทเนอร์ที่ยักษ์อีวีจีนจับมือในไทยก็คือ กลุ่ม "พรประภา" แห่งสยามกลการ ผู้นำเข้ารถยนต์นิสสัน ซึ่งประกาศจะปั้นแบรนด์รถอีวีจีนรายนี้ให้ขึ้นเป็นท็อป 5 ภายในเวลา 5 ปี


ลงทุน 3 พันล้านตั้งบริษัทจัดจำหน่าย Rêver Automotive

กลุ่มพรประภาเลือดใหม่ นำโดย ประธานวงศ์ และประธานพร พรประภา ประกาศเปิดตัวบริษัท Rêver Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) ในวันนี้ (8 ส.ค. 2565) โดยมีมูลค่าการลงทุน 3 พันล้านบาท เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายและผู้ให้บริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ NEV Nation ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ประธานและรองประธานของ เรเว่ ออโตโมทีฟ ระบุว่า สาเหตุที่เลือกเป็นพันธมิตรกับ BYD เป็นเพราะประทับใจในบริษัทอีวีเบอร์ 1 จากจีนรายนี้ ในฐานะ "บริษัทที่เน้นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม" มีพนักงานเกือบ 3 แสนคน มีฝ่ายวิจัย R&D กว่า 4 หมื่นคน และมีผลิตภัณฑ์ (รถยนต์) ที่ดี มีความปลอดภัยสูง

Rêver เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า "ความฝัน" สอดคล้องกับชื่อของ BYD ที่ย่อมาจาก Build Your Dream และเป็นจุดเชื่อมโยงของ 2 บริษัท คือ การสร้างสิ่งแวดล้อมในฝัน มอบอากาศสะอาดให้กับโลก

000_98b2hc(1)

จะปั้นให้ติดท็อป 5 ไทย ใน 5 ปี ได้อย่างไร?

ประเด็นหลักของการขายรถยนต์นั้น นอกจากเรื่องตัวสินค้าและราคาแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ "อะไหล่และบริการหลังการขาย" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถยนต์ญี่ปุ่นเป็นแชมป์ในประเทศไทยมาโดยตลอด ยิ่งจะขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นของใหม่สำหรับคนไทยนั้น ก็ต้องมั่นใจว่าจะมีศูนย์และสถานีชาร์จรองรับมากพอ

ในมุมของตัวรถนั้น จะใช้จุดเด่นที่ความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี เช่น "Blade Battery" ที่ขึ้นแท่นเป็นแบตเตอรี่ EV ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในตลาด ผ่านการทดสอบชนิดเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า "Nail Penetration Test" ด้วยอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ระยะการขับขี่ที่ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือมีความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงจุดเด่นที่ "e-platform 3.0" ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่ยกระดับการขับขี่รถยนต์ EV ไปอีกขั้น ทั้งอัตราการเร่ง ระยะทางขับขี่ และความเร็วในการชาร์จ การควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอย่างเสถียร

ส่วนในมุมการตลาดนั้น จะเน้นผนึกด้านการขายและบริการหลังการขาย ผ่านช่องทางทั้ง "ออนไลน์" และ "ออฟไลน์" เท่าเทียมกัน คือจะไปด้วยกันทั้งแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Rêver Super Application ที่จะเปิดตัวพร้อมรถรุ่นแรก และจะใช้การขยายโครงข่ายพันธมิตร โดยจะมีตัวแทนจำหน่ายที่มีทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายเต็มรูปแบบ 31 แห่งภายในปีนี้ และตั้งเป้าเป็น 70 แห่ง ภายในปีหน้า

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ SHARGE เพื่อเปิดสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นจากเดิมในไทยให้ถึง 1,000 สถานี ครอบคลุมทั้งประเทศ ในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการใช้รถ EV และการชาร์จไฟภายในบ้านให้แก่ผู้บริโภคด้วย


จะมีรถรุ่นไหนเข้ามาบ้าง และราคาเท่าไร?

เรเว่ ออโตโมทีฟ ระบุแค่ว่าจะเริ่มนำรถอีวีของ BYD เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในปีนี้แน่นอน แต่ยังไม่เปิดเผยรุ่น หรือช่วงราคารถที่จะนำเข้ามาจำหน่าย


รู้จัก BYD รถจีนที่ใหญ่กว่า Tesla และมี วอรเรน บัฟเฟตต์ ถือหุ้นอยู่

ในแง่ของยอดขายทั่วโลก ซึ่ง BYD พยายามขับเคี่ยวไล่บี้กับ Tesla จากสหรัฐ มาตลอดนั้น ล่าสุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 นี้ BYD ก็สามารถแซงหน้าขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้สำเร็จ โดยมียอดขายอยู่ที่ สูงถึง 641,400 คัน หรือคิดเป็นการเติบโตถึง 315% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แซง Tesla ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 564,700 คัน หรือโตขึ้น 46%

หนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ใน BYD ก็คือ บริษัทลงทุน Berkshire Hathaway ของตำนานนักลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งเข้าลงทุนใน BYD มาตั้งแต่ปี 2008 จนปัจจุบันมีหุ้นอยู่ 225 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 7.7% (ลงทุนผ่านบริษัทลูกที่ชื่อว่า เวสเทิร์น แคปิทัล กรุ๊ป)

BYD ก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีจีน หวาง ฉวนฟู่ (Wang Chuanfu) ซึ่งเป็นประธานบริษัทในปัจจุบัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี มีพนักงานกว่า 290,000 คนทั่วโลก โดยมีวิศวกร R&D มากกว่า 40,000 คน และสถาบันวิจัย 11 แห่งทั่วโลก ทีมออกแบบ in-house ประกอบด้วยนักออกแบบกว่า 400 คน จาก 10 ประเทศ

advertisement

SPOTLIGHT