หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อคำว่า “Big Four” ในข่าวธุรกิจมาบ้าง โดยบริษัทเหล่านี้ประกอบไปด้วย Deloitte และ PricewaterhouseCoopers หรือ PwC และ KPMG รวมถึง EY ที่เหล่าบริษัทเอกชนจ้างบริษัทเหล่านี้ให้ตรวจสอบงบการเงิน นอกจากนั้นก็ยังมีธุรกิจอีกส่วนหนึ่งคือรับเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ รวมถึงที่ปรึกษาด้านภาษีด้วย
แต่ล่าสุด Ernst & Young หรือ EY มีแผนที่จะแยกธุรกิจตรวจสอบบัญชีออกจากธุรกิจที่ปรึกษา เพื่อเพิ่มความโปร่งใสรวมถึงความอิสระในเรื่องการตรวจสอบบัญชี หลังจากที่รัฐบาลรวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศได้เริ่มตั้งข้อสังเกตกับธุรกิจตรวจสอบบัญชีที่มีธุรกิจที่ปรึกษาอยู่ภายในบริษัทอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่
Carmine Di Sibio ซึ่งเป็น CEO ของ EY ได้กล่าวในบันทึกภายในที่ส่งให้กับหุ้นส่วนทางธุรกิจ เขามองว่าด้วยการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลง กฎระเบียบ รวมถึงสภาวะตลาด ทำให้บริษัทกำลังหาทางประเมินในเรื่องกล่าวอยู่ อย่างไรก็ดีเขาได้กล่าวว่ายังไม่มีการตัดสินใจเรื่องนี้อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด
ไม่ใช่แค่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเท่านั้น EY ได้ประสบปัญหาเรื่องคุณภาพในการตรวจสอบบัญชี หลังจากเหตุการณ์ฉาวอย่างบริษัทรับ-จ่ายเงินชื่อว่า Wirecard ในเยอรมันได้แจ้งล้มละลาย หลังเงินมูลค่า 1,900 ล้านยูโรของบริษัทหายไปแบบไร้ร่องรอย ซึ่ง EY เองเป็นบริษัทสอบบัญชีของ Wirecard
นอกจาก Wirecard แล้วก็ยังมีกรณีฉาวอย่าง NMC Healthcare ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมไปถึง Luckin Coffee เชนร้านกาแฟที่มีข่าวฉาวเรื่องการตกแต่งบัญชีที่บริษัทเหล่านี้ต่างใช้บริการของ EY
ข้อมูล Audit Analytics ในปี 2021 ที่ผ่านมา เหล่า Big Four นั้นมีส่วนแบ่งการตลาดในการรับตรวจสอบบัญชีบริษัทเอกชนที่มีขนาดเกิน 75 ล้านเหรียญสหรัฐมากถึง 2 ใน 3
ยังมีการคาดเดาว่าถ้าหาก EY สามารถแยกธุรกิจสอบบัญชีออกมาสำเร็จ อาจเป็นแรงกดดันให้กับบริษัท 3 เจ้าที่เหลือให้แยกธุรกิจสอบบัญชีตาม EY ทันที
ซึ่งเส้นตายที่สภาการเงิน (FRC) ของสหราชอาณาจักรได้ขีดเส้นตายให้กลุ่ม Big Four แยกธุรกิจตรวจสอบบัญชีนั้นต้องแล้วเสร็จภายในปี 2024
อย่างไรก็ดีโฆษกของ EY ได้กล่าวกับ Reuters ว่าการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญกับบริษัทจะต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงหุ้นส่วนของบริษัทได้โหวตให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้