ธุรกิจการตลาด

Deco เซ็นร่วมมาตรการรถอีวี ดันมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลดราคา 18,000 บาท!

3 พ.ค. 65
Deco เซ็นร่วมมาตรการรถอีวี ดันมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลดราคา 18,000 บาท!

 

"เดโก กรีน" ขึ้นแท่นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจ้าแรก ที่เซ็นร่วมมาตรการสนับสนุนรถอีวีกับสรรพสามิต จ่อลดราคาทันทีคันละ 18,000 บาท เตรียมเข็น 8 รุ่นลงตลาดเร็วๆ นี้


บริษัท เดโก กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจประกอบ ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งภายในประเทศและส่งออก ได้ลงนามข้อตกลงมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกับกรมสรรพสามิต โดยถือเป็นผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า "รายแรก" ที่เข้าร่วมมาตรการ หลังจากก่อนหน้านี้สรรพสามิตรได้ลงนามกับค่ายรถยนต์จากจีนและญี่ปุ่นไปแล้ว 3 ราย

ทั้งนี้ บริษัทเดโก เป็นผู้ผลิตที่ใช้เทคโนโลยีจากไต้หวัน ซึ่งได้แจ้งความประสงค์ผลิตรถจักรยานยนต์ในประเทศและขอรับสิทธิจำนวน 8 รุ่น ได้แก่ 1. ฮันนาห์ 2.โซเฟีย 3.ลูเซียโน่ 4.ซูซู 5.ซูเปอเรซ 6.ดับเบิลเอซ 7.จี-ไฟว์ และ 8.ไททัน

hannah-indexsofia-index-2luciano-index
ฮันนาห์,โซเฟีย, ลูเซียโน่



บริษัทวางแผนที่จะผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปี 2565 จำนวน 32,000 คัน ปี 2566 จำนวน 38,400 คัน ปี 2567 จำนวน 46,400 คัน ปี 2568 จำนวน 56,000 คัน และในอนาคตมีแผนจะผลิตให้ได้ถึง 2 แสนคัน

“ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างนำรถจักรยานยนต์ต้นแบบมาให้กรมตรวจสอบ หากผ่านการตรวจสอบก็พร้อมจะเปิดขายทันที โดยจะมีการให้ส่วนลดทันทีคันละ 18,000 บาท จากราคาเฉลี่ยที่ขายกันคันละ 50,000-100,000 บาท” นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว

ทั้งนี้ เงื่อนไขสำหรับผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการนั้น จะได้สิทธิประโยชน์จากภาษีสรรพสามิตอัตราภาษี 1% และเงินอุดหนุน 18,000 บาทต่อคัน สำหรับการนำเข้ารถจักรยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ในปี 65-66 และผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ในปี 65 – 68

โดยรถจักรยานยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการฯ ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

- ต้องเป็นแบตเตอรี่ประเภทลิเธียมไอออน
- มีความจุแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีระยะทางที่วิ่งได้ตั้งแต่ 75 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- ต้องใช้ยางล้อที่เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มาตรฐานเลขที่ มอก. 2720-2560 หรือที่สูงกว่า
- ต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม เลขที่ มอก. 2952-256


สำหรับในส่วนรถยนต์ไฟฟ้านั้น นายลวรณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมกำลังเร่งผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลดภาษีสรรพสามิตรถอีวี จาก 8% เหลือ 2% ออกมา เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการ และหลังจากนี้จะมีค่ายรถยนต์ทยอยลงนามร่วมต่อเนื่อง

โดยปีนี้น่าจะมีรถยนต์เข้ามาใช้สิทธิมาตรการอีวีไม่ต่ำกว่า 20,000 คัน ภายใต้เงินสนับสนุน 3,000 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายระยะยาว ตั้งเป้าหมายจะใช้เงินสนับสนุนตลอดโครงการที่ 40,000 ล้านบาท มีรถเข้าร่วม 4 แสนคน

advertisement

SPOTLIGHT