สวีเดน เดินแผนเตรียมสร้างถนนสายแรกของโลกที่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จไฟได้ขณะวิ่ง โดยใช้เทคโนโลยีระบบถนนไฟฟ้า (Electric Road System หรือ ERS) บนเส้นทาง E20 เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายสำคัญคือ การลดการปล่อยมลพิษจากภาคการขนส่ง
wionews รายงานว่า สวีเดนเตรียม เตรียมก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero จากเดิมที่สหภาพยุโรปได้กำหนดเป้าหมายให้รถยนต์ใหม่ทุกคันที่ขายตั้งแต่ปี 2035 จะต้องไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งหมายความว่า ประเทศในยุโรปจำเป็นต้องเร่งเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการชาร์จไฟ
ล่าสุด สวีเดนกำลังวางแผนเปลี่ยนถนนหลวงให้กลายเป็น ถนนไฟฟ้า แบบถาวร ซึ่งจะกลายเป็นถนนสายแรกของโลกที่รถยนต์สามารถชาร์จไฟได้ในขณะขับขี่
ถนนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นถนนไฟฟ้า คือ เส้นทาง E20 ซึ่งเป็นทางหลวงที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ของสวีเดน ระหว่างเมืองฮาล์สเบิร์ก เมืองโอเรโบร และมัลเมอ ครอบคลุมระยะทางกว่า 21 กิโลเมตร มาเป็นเส้นทางสร้างระบบถนนไฟฟ้า ที่เรียกว่า Electric Road System (ERS) โดย โครงการดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง และตั้งเป้าจะเริ่มสร้างภายในปี 2025 อีกทั้งคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2026
สำหรับระบบชาร์จไฟบนถนนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะใช้ระบบใด โดยมีความเป็นไปได้ คือ
แต่ไม่ว่าระบบชาร์จไฟจะเป็นอย่างไร ถนนไฟฟ้าของสวีเดน ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษและส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
อันดับแรก คือ การช่วยลดการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ และจะเพิ่มระยะทางขับขี่ของรถไฟฟ้า ทำให้รถไฟฟ้าสามารถเดินทางไกลขึ้นโดยไม่ต้องมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งจะช่วยให้ราคาของรถไฟฟ้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และอัตราการใช้รถไฟฟ้าก็จะเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ช่วยลดปัญหาการชาร์จไฟ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จไฟได้ขณะขับขี่ ทำให้ไม่จำเป็นต้องหาสถานีชาร์จไฟ
รัฐบาลสวีเดนมีแผนที่จะเพิ่มถนนไฟฟ้าอีก 3,000 กิโลเมตรภายในปี 2035 โดยปัจจุบันสวีเดนร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยของเยอรมนี และฝรั่งเศส เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับถนนไฟฟ้า นอกจากนี้ สวีเดนและเยอรมนียังเริ่มทดลองติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับรถไฟฟ้าบนถนนสายหลักทั่วประเทศมาหลายปีแล้ว ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น อิตาลี สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และอินเดีย ก็กำลังทุ่มเทสร้างระบบถนนไฟฟ้าขึ้นมาเช่นกัน
อนาคตของถนนไฟฟ้า จะพลิกโฉมวงการยานยนต์ โดยช่วยลดปัญหาการปล่อยมลพิษและส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันและบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
ที่มา wionews