Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กูรูชี้อีก 5 ปี EV จีนอาจเหลือแค่ 15 จาก129 แบรนด์! เหตุแข่งราคาเดือด
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

กูรูชี้อีก 5 ปี EV จีนอาจเหลือแค่ 15 จาก129 แบรนด์! เหตุแข่งราคาเดือด

4 ก.ค. 68
15:01 น.
แชร์

บริษัทที่ปรึกษา AlixPartners เปิดเผยว่า จากจำนวนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ทำตลาดในจีนอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด 129 แบรนด์ มีเพียง 15 แบรนด์เท่านั้นที่จะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงภายในปี 2030 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจะเร่งให้เกิดการควบรวมกิจการและบางแบรนด์ต้องถอนตัวออกจากตลาด

AlixPartners คาดการณ์ว่า 15 แบรนด์ที่เหลืออยู่จะครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 75% ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดในจีนภายในสิ้นทศวรรษ โดยแต่ละแบรนด์จะมียอดขายเฉลี่ยปีละ 1.02 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้เปิดเผยชื่อของแบรนด์เหล่านั้น

Stephen Dyer หัวหน้าฝ่ายธุรกิจยานยนต์ของ AlixPartners ประจำภูมิภาคเอเชีย ระบุว่ากระบวนการควบรวมกิจการในจีนอาจดำเนินไปอย่างช้ากว่าตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นในจีนมีแนวโน้มที่จะให้การสนับสนุนแบรนด์ที่ไม่สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว เนื่องจากแบรนด์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค การจ้างงานในท้องถิ่น และห่วงโซ่อุปทาน

“จีนเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุดในโลก มีทั้งสงครามราคาที่ดุเดือด การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาท้าทายตลาดอยู่ตลอดเวลา” Dyer กล่าว

“สภาพการแข่งขันนี้ได้สร้างความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพด้านต้นทุน แต่ในอีกด้านหนึ่ง บริษัทจำนวนมากกลับประสบปัญหาในการสร้างความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน”

ราคาดุเดือด กำลังการผลิตล้นตลาด กดดันผู้ผลิตจีน

ปัจจุบัน ตลาดยานยนต์ของจีน ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญกับสงครามราคาอย่างรุนแรงและกำลังการผลิตส่วนเกินอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นแรงกดดันสำคัญต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ผลิต

ปัจจุบัน ในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีเพียง BYD และ Li Auto เท่านั้นที่สามารถทำกำไรสุทธิได้ตลอดทั้งปี ขณะที่ผู้ผลิตรายอื่นยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลของจีนจะออกมาเรียกร้องให้ผู้ผลิตรถยนต์ยุติสงครามราคา แต่ Dyer มองว่าสงครามราคาจะยังคงดำเนินต่อไปในรูปแบบแอบแฝง เช่น การให้เงินสนับสนุนด้านประกันภัยหรือการจัดสินเชื่อปลอดดอกเบี้ย แทนการลดราคาขายโดยตรง

นอกจากนี้ Dyer เปิดเผยว่า อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์ในจีนปีที่แล้วลดลงเหลือเพียง 50% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสิบปี และสร้างแรงกดดันต่อผลประกอบการของผู้ผลิตยานยนต์อย่างมาก


ที่มา: Reuters

แชร์
กูรูชี้อีก 5 ปี EV จีนอาจเหลือแค่ 15 จาก129 แบรนด์! เหตุแข่งราคาเดือด