ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากจีน “Xiaomi” เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว “YU7” รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ซึ่งเตรียมวางจำหน่ายเต็มรูปแบบในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเล็งเจาะตลาดเดียวกับ Tesla Model Y ที่ครองแชมป์รถ EV ขายดีในจีน
เจฟฟ์ ชุง นักวิเคราะห์จาก Citi ประเมินว่า YU7 มีศักยภาพสูงในการ “แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดของ Model Y ได้อย่างมีนัยสำคัญ” โดยคาดว่ายอดขายเฉลี่ยต่อเดือนอาจแตะระดับ 30,000 คัน และยอดขายต่อปีอยู่ในช่วง 300,000-360,000 คัน ทั้งนี้ YU7 คาดว่าจะมีราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 250,000–320,000 หยวน (ประมาณ 1.13–1.45 ล้านบาท) ซึ่งชนกับช่วงราคาของ Tesla Model Y ที่เริ่มต้นที่ 263,500 หยวน (ราว 1.19 ล้านบาท) โดยตรง
YU7 ถูกวางตำแหน่งเป็น “SUV ระดับพรีเมียม” ซึ่งมีโอกาสสร้างยอดขายเหนือกว่า SU7 ซีดานรุ่นแรกของ Xiaomi ตามความเห็นของ เอลินอร์ เหลียง นักวิเคราะห์จาก CLSA ภายในห้องโดยสารออกแบบเน้นความหรูหราและความสะดวกสบายอย่างครบครัน โดยเบาะคู่หน้าแบบ Zero Gravity หุ้มหนัง Nappa สามารถปรับเอนได้ถึง 123 องศา พร้อมระบบนวด 10 จุด ขณะที่เบาะหลังปรับเอนไฟฟ้าได้ถึง 135 องศา และติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 6.68 นิ้วสำหรับควบคุมระบบปรับอากาศและความบันเทิง
จุดเด่นสำคัญของ YU7 คือระยะทางวิ่งสูงสุดที่ 760 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเหนือกว่า Tesla Model Y รุ่น Long Range ที่ทำได้ 719 กิโลเมตร โดยรถรุ่นนี้สร้างบนแพลตฟอร์ม 800V Silicon Carbide High-Voltage รองรับการชาร์จเร็วที่อัตรา 5.2C ทำให้สามารถวิ่งเพิ่มได้ถึง 620 กิโลเมตร ภายในเวลาเพียง 15 นาทีของการชาร์จ
Xiaomi จัดงานเปิดตัว YU7 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2025 ณ กรุงปักกิ่ง โดยมี เหลย จวิน ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ ขึ้นเวทีเปิดตัวด้วยตนเอง พร้อมกันนี้ยังได้เผยโฉมชิปมือถือรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัท ซึ่ง Xiaomi ระบุว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า iPhone ในบางด้าน ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในยุทธศาสตร์ของบริษัท ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการค้าที่ตึงเครียดบนเวทีโลก
Xiaomi เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรม EV อย่างเป็นทางการเมื่อไม่ถึงหนึ่งปีที่แล้ว โดยได้เปิดตัว SU7 รุ่นซีดานเป็นรุ่นแรก ซึ่งวางราคาต่ำกว่า Tesla Model 3 ราว 4,000 ดอลลาร์ ในเวลานั้น SU7 มีราคาเปิดที่ 215,900 หยวน ขณะที่ Model 3 ลดราคาลงมาเหลือ 235,500 หยวน ณ วันที่ 26 พฤษภาคม
อย่างไรก็ดี ยอดส่งมอบ SU7 ของ Xiaomi มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยในเดือนเมษายนอยู่ที่ราว 28,000 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคมที่เคยทำสถิติไว้กว่า 29,000 คัน โดยการลดลงนี้เกิดขึ้นหลังจากมีอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ SU7 ส่งผลให้ทางการจีนออกคำเตือนให้ผู้ผลิตระมัดระวังการโฆษณาระบบช่วยขับขี่
ด้านการแข่งขันในตลาด ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Autohome รถ Tesla Model Y ยังคงครองอันดับสองของรถพลังงานใหม่ (NEV) ที่ขายดีที่สุดในจีนในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือนเมษายน โดยอันดับหนึ่งเป็นของ BYD Seagull ซึ่งมีราคาย่อมเยากว่า ขณะที่อันดับสามคือ Wuling Hongguang Mini ส่วน SU7 ของ Xiaomi อยู่อันดับที่สี่ และ Model Y อยู่ในอันดับที่แปด
ขณะเดียวกัน คู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่าง Xpeng เตรียมเปิดตัวรุ่น Max ของรถ Mona M03 ในวันพุธที่จะถึงนี้ โดยเป็นรุ่นที่มาพร้อมฟีเจอร์ช่วยขับขี่ขั้นสูง และมีกำหนดเริ่มส่งมอบหลังช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา