เมื่อปีที่แล้วหากใครเล่น TikTok เชื่อว่าต้องเคยเห็นความไวรัลของขนม ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ บาร์ช็อกโกแลตที่มีไส้ด้านในเป็นสีเขียวๆ ซึ่งเชื่อว่าตอนแรกที่เราได้เห็นเมนูนี้ก็คงดูเป็นขนมที่แปลกตา เนื่องจากข้างในสอดไส้เส้นสีเขียว ซึ่งทำเอาหลายๆคนเปรียบเปรยว่า เป็นขนมที่ดูน่าตาประหลาดเพราะเหมือนหญ้า แต่แท้จริงแล้วนั้นคือถั่วพิสตาชิโอและเส้นคูนาฟ่า (เส้นชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำขนมในประเทศแถบตะวันออกกลาง ทำมาจากแป้งสาลีและแป้งข้าวโพด)
แต่เชื่อหรือไม่ ด้วยความแปลกตาของหน้าตาขนม และรสชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เกิดความไวรัลของช็อกโกแลตดูไบ ที่ดังไปทั่วบ้านเมือง
ช่วงนั้นได้เกิดการพรีออเดอร์ สั่งซื้อช็อกโกแลตดูไบ จากต้นตำรับจากร้าน Fix Dessert Chocolatier ในดูไบ ซึ่งราคาตอนนั้นพุ่งขึ้นไปราคาแท่งละเกือบ 1,000 บาท
เช่นเดียวกันกับ ร้านขนมในประเทศไทย ก็ได้มีการคิดค้นสูตร ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ ในแบบฉบับของร้านตนเอง โดยร้านขนมไทยเจ้าแรกที่ได้ออกเมนูนี้มา คือร้าน The Rolling Pin ที่สามารถขายได้ถึง 1,800 ชิ้นต่อวัน
ผ่านมาแล้วเกือบ 1 ปี ความฮิตของช็อกโกแลตดูไบก็ยังคงอยู่ และแน่นอนว่าตอนนี้ส่งผลต่อราคาถั่วพิสตาชิโอ ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของช็อกโกแลตดูไบ มีรายงานว่าราคาพุ่ง สูงขึ้นจาก 7.65 ดอลลาร์เป็น 10.30 ดอลลาร์ต่อปอนด์ในหนึ่งปี
สำนักข่าว Financial Times ได้มีการรายงานว่า ตอนนี้ ถั่วพิสตาชิโอเริ่มหายากแล้วเนื่องจากผลผลิตในปีที่แล้วในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกไม่ดี แม้ว่าผลผลิตจะน้อยกว่าปกติ แต่ก็มีคุณภาพสูงกว่า จึงขายเป็นถั่วทั้งเมล็ดที่ยังมีเปลือกอยู่เป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดการขาดแคลนเมล็ดพื้นฐานที่ใช้ทำแท่งช็อกโกแลตมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตชาวอิหร่านส่งออกถั่วไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มขึ้น 40% ในช่วง 6 เดือนจนถึงเดือนมีนาคม มากกว่าที่ส่งออกในช่วง 12 เดือนก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตาม ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าความไวรัลของ ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ คือพลังของ TikTok ที่สามารถผลักดันให้สินค้าหนึ่งกลายมาเป็นที่รู้จัก จนสามารถทำให้สินค้านั้นๆกลายมาเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกได้อย่างไม่อยาก เช่นเดียวกันกับกระแสมัทฉะฟีเว่อร์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้า ส่งผลให้มัทฉะกลายมาเป็นสินค้าหายาก ขาดตลาด จนถึงขั้นขาดแคลนมาก่อนหน้านี้
อ้างอิง Financial Times