เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ผาอินทรีย์ ยืนยันยังไม่ได้ถูกเขมรยึด
เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ ผาอินทรีย์ ยืนยันยังไม่ได้ถูกเขมรยึดตามที่ลือว่อนโซเชียล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 216 พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อ.บ้านกรวด และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เดินทางไปสำรวจที่บริเวณ ‘ผาอินทรีย์’ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หลังมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ ระบุว่า ถูกฝ่ายกัมพูชาเข้ามายึดไว้ได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบหรือปรากฎตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลแต่อย่างใด
(2 ธ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อห้วงเวลาประมาณ 08.00-12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 216 ร่วมกับสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ อส. อำเภอบ้านกรวด และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วม 20 นาย ได้เดินเท้าพร้อมอาวุธประจำกาย ไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ ‘ผาอินทรีย์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณ หมู่บ้านสายตรี 6 ใต้ ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
ซึ่งการเดินทางเข้าไปค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่ารกทึบและอยู่ลึก เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้านานหลายชั่วโมงจึงเดินทางไปถึง ซึ่งจากการตรวจสอบในพื้นที่ ‘ผาอินทรีย์’ เบื้องต้น ไม่พบว่ามีร่องรอยจากการถูกบุกรุก หรือการเข้ามาพักอาศัยของฝ่ายกัมพูชาแต่อย่างใด โดยในพื้นที่ ‘ผาอินทรีย์’ เดิมเคยเป็นที่ตั้งของฐานปฎิบัติการของ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 216 แต่ได้มีการยุบฐานปฎิบัติการดังกล่าวไปเมื่อห้วงปี พ.ศ. 2533
ทั้งนี้สำหรับการเดินเท้าลาดตระเวนในครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้มี ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า “สัญญาลักษณ์ ดอนศรี” เป็นชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ และเป็นที่รู้จักในนามอาจารย์นักแต่งเพลงลูกทุ่งอีสาน โดยมักจะชอบทำคอนเทนต์ตลกแต่งกายและพูดล้อเลียนเป็นภาษากัมพูชา จนมีหลายคนที่ไม่รู้จักเชื่อว่าเป็น ‘พลเอกเตีย เซรยฮา รัฐมนตรีกลาโหมเขมร’
ได้มีการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาว่า ‘ด่วน !เขมรยึดผาอินทรีย์สายตรี บ้านกรวด ทหารห้ามชาวบ้านเข้ากรีดยาง ทหารผู้ใหญ่กำลังเจรจา ออกไปเถอะ ผมยอมแล้ว ได้โปรด!
โดยทันทีที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปและมีผู้คนเข้ามากดไลฟ์กดแชร์และคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งได้สร้างความสับสนและความตื่นตระหนกให้กับประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชา เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง และป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเกิดความตื่นตระหนก เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จึงได้เข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีร่องรอยหรือการขึ้นมาพักอาศัย ของฝ่ายกัมพูชา ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลแต่อย่างใด
Advertisement
