มท.2 ลงพื้นที่ จ.สตูล เร่งช่วยเหลือ - ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย
มท.2 ลงพื้นที่ จ.สตูล เร่งช่วยเหลือ - ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย พร้อมย้ำรัฐบาล "ไม่ปล่อยประชาชนลำพัง"
(29 พ.ย. 2568) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ลงพื้นที่ จ.สตูล เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัยในเขต อ.เมืองสตูล โดยมี น.ส.ดุษฎี พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายกเทศมนตรีตำบลฉลุง และเทศมนตรีเมืองสตูล และส่วนราชการหลายหน่วย ร่วมลงพื้นที่รับฟังปัญหาและเร่งหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช่วงเช้า นายทรงศักดิ์ เดินทางไปยังเขตเทศบาลตำบลฉลุง เพื่อตรวจย่านชุมชนตลาดสดเทศบาลตำบลฉลุงที่ยังมีกระแสน้ำท่วมขัง แม้ระดับน้ำในลำคลองสายฉลุงจะลดลงแล้ว เพื่อรับทราบปัญหาและหาแนวทางในการป้องกันน้ำที่อาจจะท่วมอีกในอนาคต จากนั้นได้เดินเยี่ยมครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รับฟังปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานดูแลอาหารน้ำดื่มยารักษาโรคและความช่วยเหลือพื้นฐานให้เข้าถึงทุกครอบครัวอย่างทั่วถึง
เวลา 11.00 น. คณะได้ตรวจเยี่ยมจุดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ณ อาคาร 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล ซึ่งเป็นศูนย์กลางรับ-กระจายสิ่งของจำเป็นออกสู่พื้นที่ต่างๆ พร้อมขอบคุณประชาชนและเครือข่ายจิตอาสาที่ร่วมส่งต่อความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ก่อนลงพื้นที่ซอยปานชูรำลึก (ซอยแม่เนียน) ต.พิมาน เพื่อตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือน ถนน และระบบสาธารณูปโภค พร้อมกำชับให้เร่งแก้ปัญหาที่กระทบต่อชีวิตประจำวันของชาวบ้านโดยด่วน
นายทรงศักดิ์ ยังย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้ว่า รัฐบาลเสียใจต่อความสูญเสียและความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยครั้งนี้ พร้อมเร่งรัดทุกหน่วยงานเดินหน้าฟื้นฟูเยียวยาและสนับสนุนประชาชนให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
สำหรับช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. นายทรงศักดิ์ และคณะกำหนดลงพื้นที่โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองสตูล(ท.5หัวทาง)ร่วมกิจกรรมทำความสะอาดและฟื้นฟูสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเพื่อให้สามารถเปิดการเรียนการสอนได้โดยเร็วพร้อมสั่งการให้ตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารก่อนเปิดใช้งานจริง
ต่อด้วยคณะ นายทรงศักดิ์ จะเดินทางไปยัง ต.วังประจัน อ.ควนโดน ตรวจติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม ประเมินความพร้อมในการอพยพ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง และการดูแลกลุ่มเปราะบางพร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งฟื้นฟูให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและปกติโดยเร็วที่สุด
Advertisement
