
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง บอกว่า ตนเองกลับมาแล้ว หลังจากเกิดเรื่องก็ได้มีการใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งก็มีหลักฐานยืนยันชัดเจน ว่าตนเองไม่ได้มีการเบิกเงินสด ออกจากบัญชีของมูลนิธิ และก็ไม่ได้มีเงินเทาเงินดำเข้ามา และหลังจากนี้ตนเองจะดำเนินคดีกับบุคคลที่กล่าวหาให้ร้ายตนจนเสียหายประมาณ 10 คน มีคนดังหลายคน ทั้งดาราและนักการเมือง รวมถึงคนคอมเมนต์ด้วย ใครพูดอะไรต้องรับผิดชอบ ตนเองไม่จำเป็นต้องออกไปช่วยใครก็ได้ แค่นั่งขายของที่บ้านก็ได้เงินแล้ว แต่ที่ตนเองต้องออก เพราะทนเห็นชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้ เมื่อวานตนเองก็ไปช่วยชาวบ้านที่น้ำท่วม จ.อ่างทอง สิงห์บุรี บางหลังท่วมสูง 4 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อน ให้นั่งดูคงไม่ได้
ส่วนสถานการณ์ชายแดนนั้น หลังจากที่ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด ก็ได้ตัดสินใจอีกครั้งที่จะไปจัดการงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ ทั้งบังเกอร์ ทั้งถนนหนทาง โดยวันนี้ก็จะไปที่สุรินทร์ก่อน จากนั้นก็ไปที่ศรีสะเกษ อยากจะบอกน้องๆชั้นผู้น้อยว่า ขาดเหลืออะไรทักมาได้ อะไรที่ตนทำให้ได้ ตนทำหมด ส่วนที่บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน นั้น ตนจะกลับไปแน่ เพราะมีบังเกอร์ยังไม่เสร็จ ตนเองจะกลับไปทำให้เสร็จ มองว่าเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม หากมาทำในวันที่เกิดเหตุจะไม่ทันการณ์ เหมือนที่ตนเองไปทำบังเกอร์ไปที่ตาเหมือนธม น้องๆทักมาบอกว่า หากไม่มีบังเกอร์ของตน ทหารคงจะตายมากกว่านี้
ซึ่งตนก็ต้องขอบคุณแม่ทัพกุ้ง ที่ชื่นชมตนเอง ตนก็อยากขอบคุณแม่ทัพกุ้ง ที่เปิดทางให้ตนเองเข้าไปสร้างบังเกอร์ แม่ทัพกุ้งเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เมินเฉยต่อชีวิตของทหารชั้นผู้น้อย แม่ทัพกุ้งเป็นลูกผู้ชาย ควรได้รับคำยกย่องเชิดชู ไม่ใช่เสร็จนาฆ่าโคถึกแบบนี้
ส่วนเหตุชายแดนนั้น ตนมองว่าไม่ควรจะประท้วงแล้ว หมดกระดาษไปเป็นป่าแล้ว ไม่เกิดประโยชน์อะไร วันนี้รัฐบาลไฟเขียว คนที่รองลงมาควรรีบดำเนินการ
กัน จอมพลัง เล่าว่า ก่อนแม่ทัพกุ้ง จะเกษียณ ก็รอไฟเขียว ซึ่งนายกรัฐมนตรีไฟเขียวแล้ว ติดอยู่ที่ใครก็ให้พิจารณาเอาเอง แม้วันนี้ตนเองจะรู้สึกเซ็งที่หันมารบกันเอง เหมือนประโยคที่ว่า ยามศึกเราร่วมรบ ยามสงบเรารบกันเอง ตนก็ยืนยันว่าวันนี้เราควรจะช่วยกันสู้เขมร เหมือนที่เขมรร่วมกันสู้เรา เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย ซึ่งตนพร้อมแล้วที่จะกลับมาช่วยเหลือประชาชนและทหารไทย
Advertisement