
วันที่ 7 พ.ย. 68 นาย ประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสถูกผู้ใหญ่ในจังหวัดกดดัน จนต้องยุติการจัดงานทวงคืน ปราสาทตาควาย ว่า
นายอำเภอกาบเชิง มีการรายงานว่าจะมีประชาชนจัดกิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควาย ในพื้นที่โรงเรียนโคกตะเคียนวิทยา ซึ่งมีการประชุมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง และตอบหนังสือนายอำเภอกาบเชิง ให้แจ้งกับผู้ที่จะมาชุมนุมหรือจัดกิจกรรมว่าอำเภอกาบเชิง เป็น 1 ใน 5 อำเภอ ที่มีการประกาศกฎอัยการศึก
ดังนั้นพลเรือนหรือตำรวจจะมีอำนาจในพื้นที่ ซึ่งต้องให้ผู้จัดกิจกรรมยื่นคำร้องต่อทางทหาร ซึ่งหมายถึงกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่2 ย้ำว่าไม่มีข้อห้ามจัดกิจกรรม และสามารถทำได้นอกเขตประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งพื้นที่เอกชน แต่จะมี พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะเข้ามากำกับดูแล
“อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจกัน จังหวัดสุรินทร์บอบช้ำจากเหตุการณ์ปะทะ ผมเองก็รักชาติไม่แพ้ใคร ไม่มีประเด็นตามที่โซเชียลบอก และตัวผมเองไม่เคยไปกดดัน และไม่ได้เจอ อ้อ ไพรัช หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยืนยันเรารักชาติ ที่ผ่านมาเราบอบช้ำเพราะต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้าน ขอคนไทยอย่ามาสู้กันเองเลย เราควรที่จะรักกันและรักษาหวงแหนแผ่นดินมากกว่า เรื่องปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม ผมยินดีให้พวกเราได้จัดกิจกรรม แต่ไม่ใช่ย้อนกลับมาว่าผู้ว่าฯ ซึ่งผมเป็นรักษาการอยู่ และรวมถึงรักษาการผอ.กอ.รมน. ถ้าผมไม่ตอบเป็นหนังสือนายอำเภอกาบเชิง จะกลายเป็นว่าผมไม่ทำอะไรเลย ดังนั้นผมจึงทำตามอำนาจหน้าที่ ด้วยความสัจจริงผมไม่ได้มีอะไรแอบแฝง ไม่ได้มีใครมาสั่ง“
ล่าสุดมีการปรับรูปแบบเป็นการช่วยเหลือวัด แต่ยังให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม นายประภาส กล่าวว่า ตนเห็นแต่ในโซเชียลมีเดียว่ามีผู้ใหญ่ในจังหวัดกดดัน ซึ่งหมายถึงตนหรือไม่ ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำอะไร เพียงตอบหนังสือนายอำเภอกาบเชิงเท่านั้น ซึ่งไม่มีการกดดัน จึงอยากถาม อ้อไพรัช ว่ามีใครไปกดดัน ซึ่งตนรักและรู้จักน้องๆ ทางโซเชียลมีเดียอยู่แล้ว และรักแผ่นดินไทยด้วยกัน การอยากแสดงออกทำได้หากอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ตนยินดีคุยกับอ้อ ไพรัช เพื่อทำความเข้าใจเพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน เหตุใดต้องมาทะเลาะกันเอง
จากกรณีที่เกิดขึ้นมีการเปรียบเทียบกับบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นายประภาส กล่าวว่า ในหนังสือที่เราแจ้งนายอำเภอกาบเชิง ไม่มีการสั่งงดหรือสั่งห้าม เพียงแต่แจ้งว่าเป็นพื้นที่กฎอัยการศึกซึ่งเป็นอำนาจของทางทหาร แต่กลับมีการไปตีความเพิ่มเติม ในพื้นที่บ้านหนองจานเป็นการดูแลของกองกำลังบูรพา ส่วนพื้นที่ดังกล่าวนี้เป็นของกองกำลังสุรนารี พร้อมยืนยันว่าการจะจัดกิจกรรมในพื้นที่ได้หรือไม่นั้น จะต้องคุยกับฝ่ายทหาร ส่วนจะมีการตามหาผู้ใหญ่ที่กดดันหรือไม่นั้น ตนได้สอบถามทางผู้การจังหวัดฯ ซึ่งตนและผู้การฯ ไม่ได้กดดันแล้วจะตามใครอีก เขาอาจจะหมายถึงตน แต่ยืนยันว่าไม่ได้กดดัน และยินดีด้วยซ้ำที่น้องๆ จะทำในฐานะเป็นกระบอกเสียงและเป็นตัวแทนให้กับประชาชน
ส่วนที่มีการโยงถึงนักการเมืองในพื้นที่ว่าอาจจะมีใบสั่งหรือไม่นั้น ขอยืนยันด้วยความชัดเจนว่า ไม่มีใครโทรหาตน เป็นการทำหน้าที่ในฐานะรักษาการณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และยอมรับว่าพูดคุยกับหัวหน้าส่วนว่าหากตนไม่ทำอะไรจะถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่
Advertisement