
วันที่ 6 พ.ย 68 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ระบุถึงปมปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ว่า ตามที่ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว และขอยืนยันอีกครั้งว่า ปราสาทตาควาย อยู่ในเขตอธิปไตยไทย หากการเจรจาด้วยสันติวิธีไม่สำเร็จ อาจจำเป็นต้องใช้กำลัง แต่ขอยืนยันว่าจะใช้หลักสันติวิธีเป็นอันดับแรกก่อน ผ่านกลไก JBC และ RBC เว้นแต่ว่าเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดถึงขั้นต้องใช้กำลังก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
รมว.กลาโหม ยังย้ำถึงการเดินหน้าประเด็นความร่วมมือไทย-กัมพูชาว่า ในช่วงนี้ฝ่ายไทยจะดำเนินการในประเด็นสำคัญคือ การถอนอาวุธหนัก เพราะหากอาวุธหนักยังอยู่ในพื้นที่และเกิดปัญหาพลาดพลั้งใช้อาวุธกันจะทำให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายเดือดร้อน เพราะฉะนั้นจึงต้องขอให้ถอนอาวุธหนัก เป็นความสำคัญลำดับแรก
การเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความเจ็บปวด กรณีที่มีกำลังพลเหยียบกับระเบิดสูญเสียขาถึง 6 คน จากการที่ฝ่ายกัมพูชามาวางทุ่นระเบิด จึงได้เน้นย้ำให้ฝ่ายกัมพูชาเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ว่าฝ่ายกัมพูชาจะไม่เก็บกู้ในเขตแดนของตนเอง ก็ถือเป็นเรื่องที่คณะผู้สังเกตการณ์ หรือ AOT จะติดตาม แต่ฝ่ายไทยจะต้องสามารถเก็บกู้ได้ในเขตอธิปไตยของไทย
การบริหารจัดการชายแดน ต้องพยายามจัดการทวงคืน พื้นที่ที่เป็นของไทย กลับมาภายใต้ข้อตกลง ร่วมกันแล้ว โดยใช้กลไกของ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ jbc ไทยกัมพูชา โดยเฉพาะที่บ้านหนองจานหนองหญ้าแก้วจังหวัดสระแก้ว
การสร้างรั้วตามแนวชายแดน ซึ่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีระยะทาง 798 กิโลเมตร ประกอบด้วยภูมิประเทศ 3 ลักษณะ โดยลักษณะแรกคือสันปันน้ำ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้อาจเป็นความเร่งด่วนระยะหลังในการสร้างรั้ว เพราะสันปันน้ำมีความเรื่องเขตชัดเจนอยู่แล้ว
ลักษณะที่ 2 คือลำน้ำ ซึ่งมีความชัดเจนตามธรรมชาติ แต่การจะสร้างรั้วยังมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งหากสร้างรั้วริมตลิ่ง อาจสุ่มเสี่ยงทำให้เสียพื้นที่อธิปไตย หรือ หากจะสร้างรั้วตรงกึ่งกลางลำน้ำก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นสิ่งที่คิดไว้คือการใช้รั้วอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนพื้นที่ลักษณะที่ 3 สามารถทำได้อย่างแน่นอน คือแนวเขตที่เป็นเส้นตรง ซึ่งหมายถึงลักษณะภูมิประเทศพื้นที่ราบเป็นทุ่งนาหรือป่า
ทั้งนี้อยากให้สังคมเข้าใจว่า หลักเขตแดนแต่ละหลักห่างกันเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร บางหลักห่างกันถึง 10 กิโลเมตร ดังนั้นเมื่อมองบนพื้นดินจะไม่เห็นเส้นเขตแดน จึงอาจมีปัญหาล้ำกันไปล้ำกันมาบ้าง
ดังนั้นจึงต้องเริ่มสร้างรั้วชายแดนในรูปแบบกึ่งถาวร คือข้างล่างเป็นรั้วทึบข้างบนเป็นรั้วโปร่งพร้อมติดตั้งลวดหนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำในพื้นที่แนวเขตเส้นตรง โดยได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดแล้ว เพื่อให้เร่งรัดดำเนินการในส่วนที่ดำเนินการได้คือ บริเวณหลักเขตมีการตกลงกันแล้ว
ทั้งนี้หากสามารถดำเนินการขับเคลื่อนเรื่องสำคัญทั้งหมดได้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา แต่ถ้าทำมากกว่านั้นพร้อมกันก็ยอมรับว่าอาจจะเกินขีดความสามารถของรัฐบาล และของกองทัพ แต่ขอยืนยันว่า ไม่ได้ละทิ้ง หรือละเลยใดๆ แต่ทุกอย่างต้องทำไปตามลำดับ และตามสถานการณ์ รวมถึงปัจจัยสภาพแวดล้อม
ส่วนประเด็นปราสาทคนาที่ทางกัมพูชา สร้างบันได-กระเช้า ก็ถือว่ายังเป็นประเด็นนอกเหนือจากเรื่องเร่งด่วนที่ระบุไปแล้ว แต่ก็จะดำเนินการในสิ่งที่สามารถทำได้เช่น การประท้วง และเป็นเรื่องที่จะแก้ปัญหาในลำดับต่อไป โดยขอยืนยันว่า ทุกเรื่องจะใช้แนวทางสันติวิธีก่อน เพราะการใช้กำลังเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ให้เกิดขึ้น
โดยย้ำว่าแนวทางที่ไทยทำช่วงที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่นานาชาติยอมรับ และชื่นชมไทย จึงมั่นใจว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ซึ่งการใช้กำลังจะเกิดขึ้นในกรณีจำเป็นเท่านั้น
ส่วนกรณีแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิด 13 พื้นที่ที่ปรับมาเหลือ 5 พื้นที่นำร่อง และกัมพูชาไม่ตอบสนองต่อการเก็บกู้ในพื้นที่ปราสาทตาควายนั้น รมว.กลาโหม ย้ำว่า ก็จะดำเนินการใน 5 พื้นที่ไปก่อน เพราะถ้ามีความคืบหน้าและบรรยากาศดีขึ้น เชื่อว่าจะพูดคุยขยายพื้นที่เก็บกู้ต่อไปได้
Advertisement