วันที่ 17 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในช่วงที่ผ่านมายังส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะฤดูเก็บเกี่ยว
ถึงแม้จะไม่มีการปะทะกันแล้วก็ตาม แต่ยังอยู่ด้วยความหวาดระแวงไม่กล้าจะออกไปกรีดยางในตอนกลางคืน ไม่กล้าจะออกไปทำการเกษตรอย่างอื่นได้อย่างสบายใจเหมือนเดิม เพราะยังมีกระแสความขัดแย้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว เพราะชาวบ้านเชื่อว่าหากมีการปะทะกันจุดใดจุดหนึ่ง ก็จะลามไปทุกจังหวัดตามแนวเขตชายแดนในเวลาเดียวกันเหมือนที่ผ่านมา
ล่าสุดความตึงเครียดตามแนวชายแดน ส่งผลกระทบไปยังเกษตรกรผู้ปลูกนาข้าวและปลูกอ้อยอีกครั้ง หลังจากมีกระแสข่าวว่าทั้งรถเกี่ยวข้าวและรถเกี่ยวอ้อยจะไม่ขอรับจ้างเกี่ยวพื้นที่เสี่ยง ที่ชาวบ้านเคยอพยพออกเพราะเกรงจะเกิดอันตราย
นายอำนาจ พจชนะ อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของรถเกี่ยวข้าว กล่าวว่าปกติจะรับจ้างเกี่ยวข้าวทุกพื้นที่ไม่ว่าจะอำเภอไหน หรือจังหวัดไหนหากมีการว่าจ้าง แต่ชั่วโมงนี้ถ้าถามว่าจะจ้างไปเกี่ยวข้าวในเขตอำเภอบ้านกรวด หรือ อำเภอละหานทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนอพยพจากการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมานั้น เบื้องต้นต้องขอปฏิเสธการรับงานไว้ก่อน
เพราะไม่กล้าเข้าไปเสี่ยง ไม่รู้ว่าจะมีการปะทะกันตอนไหน แต่ถึงแม้ทางการจะรับประกันว่าเข้าไปเกี่ยวได้ ตนก็ไม่รับงานอยู่ดี เนื่องจากยังไม่รู้ว่ารถเกี่ยวจะไปเหยียบใส่ลูกระเบิด BM21 ตอนไหน แม้แต่คนในพื้นที่ยังไม่มั่นใจว่ามีลูกระเบิดตกอยู่ในที่นาของตัวเองหรือไม่ กระแสข่าวที่ว่าราคาค่าเกี่ยวอาจจะพุ่งสูงถึงไร่ละ 1,500 บาทต่อไร่จากปกติ 600 บาทต่อไร่นั้น ตนยืนยันไม่สนใจ
เช่นเดียวกับนายสิทธิชัย นกยูง อายุ 48 ปี ชาวบ้าน ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของรถเกี่ยวอีกราย กล่าวว่าเคยไปรับจ้างเกี่ยวในเขตพื้นที่ อ.ละหานทราย และอ.บ้านกรวด ตอนนี้ไม่กล้ารับงานเกี่ยวในเขตนั้นแล้ว หากถามว่าเห็นใจเกษตรกรตามชายแดนหรือไม่ ยอมรับว่าเห็นใจ แต่ต้องเห็นใจเราด้วย หากรถได้รับความเสียหายจากระเบิดใครจะรับผิดชอบ กรณีเกษตรกรกล้าจ้างเกี่ยวไร่ละ 1,000-1,500 บาท ก็สนใจแต่ก็ไม่กล้า
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบเกษตรกรทำนาข้าวตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใกล้จะมีการเก็บเกี่ยวในช่วงไม่ถึง 2 เดือนนี้ เกษตรกรแต่ละคนต่างหนักใจ หากไม่มีรถเกี่ยวข้าวและอยากถามไปถึงรัฐบาลว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร
นางรื่น อิฐประโคน อายุ 64 ปี เกษตรกรชาวอำเภอบ้านกรวด กล่าวว่าตนเองปลูกทั้งอ้อยและข้าว รู้สึกหนักใจหากไม่มีรถมาเก็บเกี่ยวให้ ปกติจะจ้างรถเกี่ยวข้าวไร่ละ 600-650 บาทขึ้นอยู่กับเกี่ยวง่าย-ยาก ส่วนอ้อยจะจ้างเกี่ยวตันละ 200 บาท กรณีจะมีการลงแขกเกี่ยวข้าวหรือไม่นั้นปัจจุบันทำได้ยากมาก เพราะข้าวออกพร้อมกัน จึงอยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้กับเกษตรกรด้วย
สำหรับระเบิด BM21 ตกในพื้นที่ อ.บ้านกรวดมีจำนวน 252 ลูก ยังไม่ทราบว่าลูกระเบิดไปตกในพื้นที่ไหนอีก เนื่องจากช่วงเวลาการปะทะเป็นช่วงฤดูฝน น้ำอาจจะกลบร่องรอยจุดที่ตกลงมาได้
Advertisement