วันนี้ 14 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ยังคงตึงเครียด แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงก็ตามก็ยังคงไม่สามารถไว้วางใจทหารกัมพูชาได้ เนื่องจากไม่สนใจการเจจาและพยายามจะละเมิดข้อตกลงต่างๆมาโดยตลอด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนต่างวิตกกังวลว่าจะมีการปะทะกันรอบ 2 เริ่มมีการอพยพหนีเข้าไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านญาติและวัดต่างๆแม้จะไม่ได้เปิดเป็นศูนย์พักพิงตามที่ส่วนราชการกำหนดก็ตาม โดยเฉพาะที่วัดศรีรัตนนาราม ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่พบว่ามีชาวบ้านจากหมู่บ้านด่านและหมู่บ้านไผ่เงิน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อพยพเข้าไปพักอาศัยกันในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงรวมทั้งเด็กๆเยาวชนต่างๆกว่า 117 คนแล้ว
ซึ่งชาวบ้านที่อพยพต่างต้องดูแลตัวเองและช่วยกันออกเงินซื้ออาหารการกินกันเอง ครอบครัวใครครอบครัวมัน รวมไปถึงทำกับข้าวกินกันเอง เพราะทางวัดไม่ได้มีงบประมาณเบิกจากส่วนราชการแต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้านก็ยินดีและเต็มใจที่จะไปพักอาศัย เนื่องจากมีความสะดวกไม่แออัดมีห้องให้อยู่เป็นห้องๆ ซึ่งที่ผ่านมาทางวัดก็ได้เปิดให้ชาวบ้านที่อพยพมาพักอาศัยมาแล้ว
ทั้งนี้หากประชาชนผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือสามารถนำสิ่งของอุปโภค-บริโภคไปที่มอบให้ที่วัดดังกล่าวได้
พระครูศรีสุนทรสรกิจ หรือ ผศ.ดร.เริงศักดิ์ เขมวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีรัตนาราม เจ้าคณะอำเภอลำดวน กล่าวว่าวัดศรีรัตนาราม เฉพาะตึกเดียวรองรับประชาชนได้ประมา 200 กว่าคน 30 ห้องนอน ติดแอร์ทุกห้อง และศาลาการเปรียญสองห้องก็ได้หลายร้อยคนเช่นกัน และศาลาอีกหลัง ที่นี่พร้อมเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว สำหรับผู้ที่ประสบผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนก็สามารถที่จะมาพักได้
Advertisement