วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดหลักที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ตลอดทั้งวันมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปที่ธนาคารและตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินเยียวยาที่รัฐบาลได้โอนเข้าบัญชีให้เป็นวันที่สอง
บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและรอยยิ้ม หลังจากที่หลายครัวเรือนรอคอยความช่วยเหลือนี้มานานกว่า 2 เดือนรัฐบาลได้อนุมัติจ่ายเงินชดเชยเยียวยาแก่ผู้อพยพ จากสถานการณ์ไม่สงบระหว่างไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568
โดยแบ่งเป็น 2 ระดับ คือผู้ที่อพยพไม่เกิน 7 วันจะได้รับเงินครัวเรือนละ 2,000 บาทและ ผู้ที่อพยพเกิน 7 วันขึ้นไปจะได้รับเงินครัวเรือนละ 5,000 บาท ประชาชนที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้กับหมายเลขบัตรประชาชนจะได้รับเงินโอนตรงจากส่วนกลางเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ผูกบัญชีสามารถติดต่อธนาคารในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและรับเงินสดได้ซึ่งในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะในอำเภอกันทรลักษ์ มีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับสิทธิ์ในรอบนี้คาดว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 12 ล้านบาท
นางดนตรี ดาผา อายุ 48 ปี ชาวบ้านชายแดน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยความดีใจว่าหลังเช็กยอดเงินในบัญชีแล้วพบว่าได้รับเงินเยียวยาครัว 5,000บาท
“ตอนแรกไม่แน่ใจว่าจะได้หรือไม่ เพราะตนเช่าบ้านอยู่ไม่ได้มีชื่อในทะเบียนบ้าน แต่เจ้าของบ้านและผู้ใหญ่บ้านช่วยประสานให้ ตอนนี้ได้เงินแล้วรู้สึกดีใจมาก จะเอาไปใช้จ่ายในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องลูกหลานไปโรงเรียนและค่าอาหารในแต่ละวัน ถือว่าช่วยได้เยอะเลย เพราะช่วงอพยพต้องหยุดงานหลายวันรายได้หายหมด”
นางดนตรี กล่าวต่อไปว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนสำคัญของชีวิต เพราะไม่คิดว่าการหนีภัยจะต้องใช้เงินมากขนาดนั้น ต้องซื้อน้ำ อาหาร เสื้อผ้า และของใช้จำเป็นทั้งหมด การได้เงินเยียวยาครั้งนี้จึงเป็นเหมือนความหวังใหม่สำหรับครอบครัว
ขณะที่นางสาวบุษ บงนาม อายุ 35ปี ชาวบ้านอีกราย กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุปะทะชาวบ้านต่างหนีตายกันอลหม่าน หลายครอบครัวต้องทิ้งทรัพย์สินไว้ในบ้าน ไม่มีโอกาสเก็บของได้มากนัก ตอนอพยพออกมาเงินหมดเร็วมาก ต้องซื้อน้ำมันเดินทางไปพักที่ศูนย์อพยพหลายวันไม่ได้ทำมาหากินเลย ตอนนี้ได้เงินมาถึงแม้ไม่มากแต่ก็พอช่วยต่อชีวิต จะเก็บไว้ใช้จ่ายเฉพาะจำเป็นและเก็บไว้เผื่อหากมีเหตุให้อพยพอีก เพราะยังไม่มั่นใจสถานการณ์ชายแดน ขอบคุณรัฐบาลและหน่วยงานที่ไม่ทอดทิ้งประชาชนชายแดน
Advertisement