นายเอกสิทธ์ คุณานันทกุล ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (ECOT) ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ว่า มีการเชิญคนนอกเข้ามาเสริมโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จในภาคธุรกิจมาหลายท่าน ซึ่งถือว่าหน้าตาภาพลักษณ์ดูดี เชื่อว่าจะเป็นความหวังทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ แต่เนื่องจากรัฐบาลได้ทำสัญญาไว้ว่าจะอยู่ในตำแหน่ง 4 เดือน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้พี่น้องประชาชนก็จะค่อนข้างลำบาก แม้ว่ารัฐมนตรีใน ครม.จะเก่งแค่ไหนแต่ในระยะเวลาแค่ 4 เดือนยังทำอะไรไม่ได้ ซึ่งหลายคนมีความรู้ความสามารถด้านธุรกิจ แต่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองและไม่เคยบริหารราชการ ไม่ได้ทำงานกับข้าราชการประจำมาก่อน เพราะการทำงานภาครัฐไม่เหมือนภาคเอกชน ถือเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องให้เวลาพิสูจน์
ส่วนข้อกังวลเรื่องเสถียรภาพรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะมีผลกระทบต่อการบริหารประเทศหรือไม่นั้น นายเอกสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยถือว่ามีข้อดีเพราะ รัฐบาลและรัฐมนตรีทุกคน ต้องทำงานอย่างเต็มที่จะปล่อยปละละเลยหรือจะมาทำงานเช้าชามเย็นชามไม่ได้เพราะเวลาน้อยต้องอาศัยเสียงฝ่ายค้านและฟังเสียงประชาชน แต่ถ้ามีเรื่องใดที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยและประชาชนคัดค้านรัฐบาลก็อยู่ต่อไม่ได้ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องโชว์ฝีมือให้เห็นอย่างเต็มที่ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ นายเอกสิทธิ์ ยังฝากถึงพรรคฝ่ายค้าน ว่า ทุกคนมาเป็นตัวแทนของประชาชนในการทำงานบ้านเมืองแล้ว ก็ขอให้ร่วมมือกันผลักดัน ซึ่งทำหน้าที่ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายตรวจสอบด้วยความเข้มแข็งทั้งคู่ ทำประโยชน์ให้กับประชาชนยึดมั่นประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งฝ่ายตรวจสอบเอง ก็ต้องทำงานเข้มแข็งเรื่องการตรวจสอบปัญหาทุจริตคอรัปชันเป็นอุปสรรคสำคัญของการเจริญเติบโต ของประเทศเรา พร้อมทั้งผลักดันกฎหมายต่างๆให้ผ่าน และเป็นหูเป็นตาแทนประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาลด้วย
เมื่อถามถึงเรื่องที่รัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นพ้องว่าควรเร่งแก้รัฐธรรมนูญแทนที่จะเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย มองว่าควรจะทำควบคู่กันไปแต่ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า แน่นอนว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สำคัญต่อประชาชนก็ต้องดำเนินการต่อไปควบคู่กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะปัจจุบันเรื่องปากท้องเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบทำ
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐจะต้องหามาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะยาวแต่ในเมื่อรัฐบาลชุดนี้มีการให้สัญญาว่าจะอยู่ในตำแหน่ง 4 เดือน ก็จำเป็นต้องหามาตรการระยะสั้นออกมาก่อน เช่นมาตรการคนละครึ่ง ซึ่งได้ผลดีเพราะเคยใช้มาแล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแต่ก็ยังไม่พอซึ่งควรมีส่วนที่ต้องเพิ่มเติมอีก แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงว่าแค่ 4 เดือนจะทำได้ทันหรือไม่
Advertisement