Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
วิธีสังเกต "มะเร็งลำไส้" ภัยร้ายวัยหนุ่มสาวที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด

วิธีสังเกต "มะเร็งลำไส้" ภัยร้ายวัยหนุ่มสาวที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด

17 ก.ย. 68
11:33 น.
แชร์

วิธีสังเกต "มะเร็งลำไส้" ภัยร้ายวัยหนุ่มสาว ติดอันดับต้นๆ คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด จากกรณีการเสียชีวิตของ หมอพี ด้วยวัยเพียง 35 ปี

ข่าวการเสียชีวิตของหมอพี พีรวัฒน์ นายแพทย์หนุ่มมากความสามารถ ที่เป็นทั้งกัปตันนักบินและนักร้องนำวง chilling romance จากไปหลังตรวจพบมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 แพร่ไปตับ ในวัยเพียง 35 ปี ทำให้สังคมเริ่มตระหนักถึงความโหดร้ายของมะเร็งชนิดนี้ ที่เมื่อก่อนถูกระวังในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ตอนนี้กลายเป็นภัยร้ายในคนทุกวัยโดยเฉพาะวัยหนุ่มสาว

ข้อมูลจาก World Health Organization ระบุว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากมะเร็งอันดับสองของโลก ในปี พ.ศ. 2563 คาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักรายใหม่มากกว่า 1.9 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักมากกว่า 930,000 รายทั่วโลก พบว่ามีความแตกต่างทางภูมิศาสตร์อย่างมากทั้งในด้านอุบัติการณ์และอัตราการเสียชีวิต อัตราอุบัติการณ์สูงที่สุดในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดในยุโรปตะวันออก ภายในปี พ.ศ. 2583 ภาระของมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 ล้านรายต่อปี (เพิ่มขึ้น 63%) และ 1.6 ล้านรายต่อปี (เพิ่มขึ้น 73%)

ด้านหมอเจด นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ชวนตระหนักรู้เกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป พร้อมวิธีสังเกตตัวเองให้รู้ก่อนสายเกินไป

1. มะเร็งลำไส้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

เมื่อก่อนเรามักจะนึกว่า “มะเร็งลำไส้ = โรคของผู้สูงอายุ” แต่ข้อมูลล่าสุดกลับบอกว่าไม่ใช่แล้วครับ! งานวิจัยจาก American Cancer Society ปี 2023 พบว่าผู้ป่วยมะเร็งลำไส้อายุต่ำกว่า 50 ปีเพิ่มขึ้นเกือบ สองเท่าในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา จนถึงขั้นต้องมีคำว่า Early-Onset Colorectal Cancer ขึ้นมาโดยเฉพาะ ที่น่าคิดคือในกลุ่มอายุน้อย โอกาสถูกวินิจฉัยช้าและเสียชีวิตกลับสูงกว่ากลุ่มผู้สูงอายุด้วยซ้ำ เพราะคนไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นโรคนี้ เรื่องราวของคุณหมอวัย 30 ปีที่จากไป จึงเป็นเครื่องเตือนใจว่า “โรคนี้ไม่ได้เลือกอายุ” และแม้เราจะยังหนุ่มสาว ก็ไม่ควรละเลยการดูแลสุขภาพหรือตรวจร่างกายครับ

2. อาการเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้าม

หลายครั้งร่างกายพยายามส่งสัญญาณ แต่เราไม่ฟัง เช่น ปวดท้องบ่อย ๆ แน่นท้องหลังอาหาร กินข้าวได้ไม่มากเหมือนเดิม หรือถ่ายผิดปกติสลับท้องผูก-ท้องเสีย ถ้าเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวไม่เป็นไร แต่ถ้า เป็นบ่อยเกิน 2–3 สัปดาห์ หรือมีอาการร่วมกับน้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ ควรไปพบแพทย์ทันทีเลยครับ เพราะในความเป็นจริง 70–80% ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ในระยะต้น ๆ มักมีอาการเพียงเล็กน้อยที่คล้ายโรคทั่วไป เช่น กรดไหลย้อนหรือลำไส้แปรปรวน บางคนบางกรณีเริ่มจากอาการจุกแน่นท้องและกินได้น้อยลง ฟังดูไม่ร้ายแรง แต่กลับเป็นสัญญาณของโรคที่ซ่อนอยู่ เราจึงควร “เชื่อสัญชาตญาณตัวเอง” และอย่ารอให้สายเกินไปครับ

3. ปัจจัยเสี่ยงในยุคปัจจุบัน

วิถีชีวิตยุคใหม่คือปัจจัยเสี่ยงชั้นดีของมะเร็งลำไส้ครับ งานวิจัยจาก WHO ระบุว่า การกินเนื้อแปรรูป (ไส้กรอก แฮม เบคอน) 50 กรัมต่อวัน หรือง่ายๆ วันละห่อ เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ 18% ส่วนเนื้อแดงมาก ๆ ก็เป็นปัจจัยชัดเจนเช่นกันโดยเฉพาะเนื้อแดงที่ทำให้ไหม้เกรียมที่หลายคนชอบ บวกกับการนั่งทำงานยาว ๆ ไม่ค่อยออกกำลัง ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวน้อย ขี้เกียจเก็บกวาด จนเกิดการอักเสบเรื้อรัง พ่วงด้วยน้ำหวานและอาหารฟาสต์ฟู้ด ก็คือเชื้อไฟชั้นดี อีกทั้งคนรุ่นใหม่หลายคนมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไปถึง 2–3 เท่า พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าเราอยากลดความเสี่ยง คำตอบคือ “เลี่ยง processed food กินผักผลไม้ให้มากขึ้น และขยับร่างกายให้เยอะกว่าที่เราคิดว่าพอแล้ว”

4. ความสำคัญของการเจอโรคให้เร็วที่สุด

“เจอเร็ว = รักษาได้ เจอช้า = โอกาสหายลดลง” ฟังเหมือนคำโฆษณา แต่เป็นเรื่องจริงทางการแพทย์ครับ สถิติชี้ว่ามะเร็งลำไส้ระยะที่ 1 มีโอกาสรอดชีวิต 5 ปีมากกว่า 90% แต่ถ้าเจอตอนกระจายไปตับหรือปอดแล้ว ตัวเลขจะเหลือเพียง 14% เท่านั้น เรื่องคุณหมอวัย 30 ที่ถูกตรวจพบก้อนในตับตั้งแต่แรก คือภาพสะท้อนว่าโรคนี้อาจวิ่งเร็วกว่าที่เราคิด เราจึงควรใส่ใจอาการผิดปกติ และอย่ากลัวที่จะตรวจลำไส้ เพราะการส่องกล้องไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเหมือนในอดีต แต่คือประกันชีวิตที่อาจช่วยเราได้จริง ๆ

5. ตรวจคัดกรอง ควรเริ่มเมื่อไร

Guideline ล่าสุดของ American Cancer Society แนะนำให้คนทั่วไปเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ตั้งแต่อายุ 45 ปี (จากเดิม 50 ปี) เพราะอุบัติการณ์ในคนอายุน้อยพุ่งสูงขึ้น ส่วนคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง ควรเริ่มตรวจเร็วกว่านั้นอีก คือ อายุน้อยกว่าญาติที่เป็นโรค 10 ปี วิธีคัดกรองมีตั้งแต่ง่าย ๆ อย่างตรวจอุจจาระหาเลือดแฝง (FIT test) ปีละครั้ง ไปจนถึงการส่องกล้อง colonoscopy ทุก 5–10 ปี ที่แม่นยำและสามารถตัดติ่งเนื้อก่อนกลายเป็นมะเร็งได้ด้วย ข้อสำคัญคืออย่าคิดว่า “ยังหนุ่ม ยังไม่เป็นหรอก” เพราะโรคไม่ได้ถามอายุก่อนมาเยือนครับ

6. ใช้ชีวิตวันนี้ เพื่อป้องกันวันหน้า

การป้องกันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลยครับ เริ่มจากการกินผักผลไม้ให้มากพอ (วันละอย่างน้อย 400 กรัม หรือครึ่งจานทุกมื้อ) ธัญพืชเต็มเมล็ด ดื่มน้ำสะอาดเพียงพอ และลดอาหารที่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งเกินไป งานวิจัยพบว่า “ไฟเบอร์สูงช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ได้กว่า 30%”

ส่วนการออกกำลังกายสม่ำเสมอ 150 นาทีต่อสัปดาห์ ก็ช่วยลดการอักเสบและเร่งการเคลื่อนไหวของลำไส้ การนอนหลับพอและลดความเครียดยังสำคัญไม่แพ้กัน เพราะฮอร์โมนคอร์ติซอลที่สูงเรื้อรังมีผลกระตุ้นการอักเสบเช่นกัน จะเห็นว่าการป้องกันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่คือการเลือกเล็ก ๆ ในทุกวัน ที่สะสมแล้วสร้างเกราะป้องกันให้เรา หรือเอาจริงๆ คือลดความอ้วนด้วยครับ

7. ฝากถึงกันด้วยความห่วงใย

เรื่องราวการจากไปของคุณหมอวัยเพียง 30 ปี เป็นสิ่งที่สะเทือนใจ เพราะท่านคือคนที่ช่วยชีวิตผู้อื่น แต่กลับต้องจากไปด้วยโรคร้าย เรื่องนี้ไม่ได้ถูกเล่าขึ้นมาเพื่อสร้างความกลัว แต่เพื่อย้ำว่าสุขภาพคือสิ่งที่เราต้องดูแลตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่รอให้เจ็บป่วยก่อน ถ้าเราหมั่นตรวจร่างกาย ไม่มองข้ามสัญญาณเตือน และใช้ชีวิตที่เอื้อต่อสุขภาพดี เราจะไม่เพียงปกป้องตัวเอง แต่ยังมอบความสบายใจให้คนที่เรารัก ไม่ต้องเสียใจในวันที่อาจสายเกินไปครับ

มะเร็งลำไส้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับต้นๆ ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ทั้งในประเทศไทยและของโลก เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน และมักพบได้มากที่สุดในกลุ่มคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มะเร็งลำไส้มักไม่มีอาการในระยะเริ่มแรก และถูกพบในระยะที่ไกลเกินรักษา การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

Advertisement

แชร์
วิธีสังเกต "มะเร็งลำไส้" ภัยร้ายวัยหนุ่มสาวที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด