เสียงดนตรีมีพลังในการสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง และไม่มีแนวดนตรีใดที่จะสะท้อน ความมีชีวิตชีวาและเสน่ห์แห่งการด้นสด ได้เท่า “แจ๊ส” เพราะแจ๊สไม่ใช่เพียงเพลงบรรเลง แต่เป็นผลผลิตทางวัฒนธรรมที่เกิดจากความหลากหลายทางเชื้อชาติ การสร้างสรรค์ และอิสรภาพในการแสดงออก
ด้วยเสียงโน้ตเพียงไม่กี่ตัว “แจ๊ส” สามารถพาผู้ฟังย้อนกลับไปสู่ความทรงจำ สร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโลกของดนตรีที่ไม่ซ้ำกันในทุกครั้งที่ฟัง
ต้นกำเนิดดนตรีแจ๊ส
“แจ๊ส” เป็นลักษณะดนตรีชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากกลุ่มคนผิวดำในสหรัฐอเมริกา (African Americans) ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมีลักษณะพิเศษคือโน้ตบลูส์ การลัดจังหวะ จังหวะสวิง การโต้และตอบทางดนตรี และการเล่นสด โดยแจ๊สถือเป็นลักษณะดนตรีคลาสสิกชนิดหนึ่งของสหรัฐอเมริกา
ดนตรีแจ๊สถือกำเนิดราวทศวรรษ 1920 วงดนตรีแรกที่นำสำเนียงแจ๊สสู่ผู้ฟังวงกว้างคือ ดิ ออริจินัล ดิกซีแลนด์ แจ๊ส แบนด์ (The Original Dixieland Jazz Band: ODJB) ด้วยจังหวะเต้นรำที่แปลกใหม่ ทำให้โอดีเจบีเป็นที่พูดถึงอย่างมาก และยังเป็นต้นกำเนิดคำว่า “แจ๊ส” ตามชื่อวง ดนตรีของพวกเขาสามารถขายแผ่นเสียงได้มากถึงล้านแผ่น
รากฐานของแจ๊ส “บลูส์และแร็กไทม์”
รากของแจ๊สมาจากเพลงบลูส์ (Blues) ของชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ผู้เล่นเพลงบลูส์มักเรียนรู้จากการฟังโดยตรง จึงมีทั้งส่วนที่เล่นถูกและเล่นผิด ซึ่งพวกเขาจะปรับแต่งและขยายทำนองตามความพึงพอใจของตัวเอง สิ่งนี้ก่อให้เกิดแนวคิด คีตปฏิภาณ (Improvisation) หรือการสร้างทำนองขึ้นใหม่สดๆ แบบด้นสดโดยไม่เตรียมตัวล่วงหน้า รวมถึงการโซโล่แบบอิสระ
ต่อมาดนตรีแร็กไทม์ (Ragtime) ก็ถือว่ามีรากฐานคล้ายกัน คือเกิดจากการผสมผสานระหว่างดนตรียุโรปและจังหวะขัดของแอฟริกัน ทั้งบลูส์และแร็กไทม์จึงกลายเป็นรากฐานสำคัญของแจ๊ส
เพลงบลูส์เริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1910 และในช่วงนั้น “บลูส์กับแร็กไทม์” ถูกผสมผสานอย่างลงตัว โดยบัดดี โบลเดน (Charles Joseph 'Buddy' Bolden) แต่ยังไม่มีคำว่า “แจ๊ส” ใช้เรียก โดยดนตรีกลุ่มนี้มักถูกเรียกว่า “ฮ็อต มิวสิก” (Hot Music)
จนกระทั่ง ODJB โด่งดัง คำว่า “แจ๊ส” จึงกลายเป็นคำที่ใช้เรียกขานกันอย่างแพร่หลาย และแจ๊สในยุคแรกจึงถูกเรียกว่า แจ๊สดั้งเดิม (Traditional Jazz) หรือ นิวออร์ลีนส์แจ๊ส
ร่วมสัมผัสบทเพลงพระราชนิพนธ์ในรูปแบบแจ๊ส
หากอยากสัมผัสเสน่ห์ของ “แจ๊ส” ผ่านบทเพลงอันทรงคุณค่า ขอเชิญมาร่วมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์สุดไพเราะ พร้อมกับได้ร่วมทำบุญกับการแสดงดนตรี “ROYAL JAZZ FOR THE CHAIPATTANA FOUNDATION”
วันที่แสดง : วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2568
สถานที่ : SX Grand Plenary Hall ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
บัตรราคา : 3,500 / 2,000 / 2,500 และ 1,000 บาท
กดบัตรได้ที่ : https://www.thaiticketmajor.com
ทั้งนี้รายได้ทั้งหมดมอบให้ “มูลนิธิชัยพัฒนา” โดยไม่หักค่าใช้จ่าย และบัตรเข้าชมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
Advertisement