“แจ๊ส” คือเสียงดนตรีที่เต็มไปด้วยอิสระและชีวิตชีวา เมื่อเข้ามาในประเทศไทย มันไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิง แต่กลายเป็นแรงบันดาลใจที่เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ ศิลปิน และวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เรื่องราวของแจ๊สไทยจึงสะท้อนถึงการเรียนรู้ การปรับตัว และความสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุด
เข้าสู่ประเทศไทยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ดนตรีแจ๊สเริ่มเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หรือประมาณปลายรัชกาลที่ 6 โดยบุคคลที่มีความสำคัญต่อวงการแจ๊สไทยเป็นอย่างมาก คือ “หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์” หลังจากที่ท่านสำเร็จการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ก็กลับมาที่ประเทศไทยและเชิญชวนนักดนตรีชาวไทยจัดตั้งวงแจ๊สขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2471 ภายใต้ชื่อ “วงเรนโบว์คลับ”
วงเรนโบว์คลับ วงแจ๊สแรกของไทย
“วงเรนโบว์คลับ” เป็นวงแจ๊สแบบ “ดิ๊กซี่แลนด์” ซึ่งขณะนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา วงนี้เล่นประจำอยู่ที่โฮเต็ลพญาไทสปอร์ตคลับ ประกอบด้วยสมาชิก 8 คน ได้แก่
• นารถ ถาวรบุตร ตำแหน่งเปียโน
• บุญเอื้อ สุนทรทนาน ตำแหน่งแซ็กโซโฟน
• หลวงชาติตระการโกศล (เจียม ลิมปิชาติ) ตำแหน่งแซ็กโซโฟน
• จำปา เล้มสำราญ ตำแหน่งทรัมเป็ต
• สาลี่ กล่อมอาภา ตำแหน่งกลองชุด
• วุฒิ สุทธิเสถียร ตำแหน่งไวโอลิน
• สมบูรณ์ ศิริภาค ตำแหน่งดับเบิลเบส
• หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ ตำแหน่งเทเนอร์แบนโจ
วงการแจ๊สในยุคกลางศตวรรษที่ 20
ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2490 ถึง 2510 วงการดนตรีแจ๊สในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างชัดเจนภายใต้นโยบายของรัฐบาลในขณะนั้น มีการตั้งวง “กรมโฆษณาการ” ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อ “วงสุนทราภรณ์” โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักคือ “ครูเอื้อ สุนทรสนา”
วงดนตรีเหล่านี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก “พระเจนดุริยางค์” ในการประพันธ์เพลง ทำให้ศิลปินและวงดนตรีท้องถิ่นเริ่มผสมผสานเครื่องดนตรีแจ๊สเข้ากับเครื่องดนตรีไทย เกิดเป็นการแสดงดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
บทเพลงพระราชนิพนธ์
นอกจากนี้บทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ยังมีบทบาทสำคัญต่อการแพร่หลายของดนตรีแจ๊สในประเทศไทย ทำให้ทั้งบุคคลทั่วไปและสถานบันเทิง เช่น โรงแรมและสถานที่จัดงานต่างๆ เริ่มให้ความสนใจและสนับสนุนการบรรเลงแจ๊สอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้วงการดนตรีแจ๊สในประเทศไทยจึงกลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมการบันเทิงในยุคกลางของศตวรรษที่ 20 สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ การเปิดรับแนวดนตรีสากล และการผสมผสานวัฒนธรรมไทยเข้ากับศิลปะดนตรีสากลอย่างลงตัว
ร่วมฟังดนตรีแจ๊สไทยสุดไพเราะ
ดนตรีแจ๊สในไทยไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมบันเทิงเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดกิจกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคม เช่นเดียวกับการแสดงดนตรี “ROYAL JAZZ FOR THE CHAIPATTANA FOUNDATION” ที่นำบทเพลงพระราชนิพนธ์มาบรรเลง เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความไพเราะของเสียงดนตรี
วันที่แสดง : วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2568
สถานที่ : SX Grand Plenary Hall ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
บัตรราคา : 3,500 / 2,000 / 2,500 และ 1,000 บาท
กดบัตรได้ที่ : https://www.thaiticketmajor.com
ทั้งนี้รายได้ทั้งหมดมอบให้ “มูลนิธิชัยพัฒนา” โดยไม่หักค่าใช้จ่าย และบัตรเข้าชมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
ข้อมูลจาก : https://www.music.mahidol.ac.th/blog/dynamic-tijc/
Advertisement