
ที่เมือง เมโซเกเรสเตช ทางตะวันออกของประเทศฮังการี ชุมชนชาวโรมา หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “ยิปซี” เคยอาศัยอยู่หนาแน่นในอดีต แต่วันนี้ พื้นที่จำนวนมากกลับกลายเป็นที่รกร้าง บ้านเรือนทรุดโทรม บางหลังไม่มีหลังคาและประตูหน้าต่างหลงเหลืออยู่เลย
เมืองเล็กแห่งนี้มีประชากรราว 3,500 คน โดยหลายสิบครอบครัวเป็นชาวโรมา กลุ่มชาติพันธุ์เร่ร่อนที่กระจายอยู่ทั่วยุโรปและเป็นชนกลุ่มน้อยที่ใหญ่ที่สุดของฮังการี คิดเป็นราว 7% ของประชากรทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2025 ฮังการีได้บังคับใช้ “กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองอัตลักษณ์ท้องถิ่น” (Hungarian Law on the Protection of Local Identity) ซึ่งให้อำนาจเทศบาลออกข้อบัญญัติเพื่อ “ปกป้องสิทธิในการรักษาอัตลักษณ์ของตนเอง” และอนุญาตให้กำหนดได้ว่า ใครสามารถย้ายเข้ามาอาศัยในพื้นที่นั้นได้หรือไม่ รวมถึงสามารถเข้าซื้อที่ดินได้เพื่อ “ควบคุมแนวโน้มทางสังคมที่ไม่พึงประสงค์”
นาย ยาโนช มายอรอช นายกเทศมนตรีเมืองเมโซเกเรสเตช กล่าวอ้างว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ทรุดโทรม
“ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา บ้านหลายหลังถูกปล่อยทิ้งร้างและเสื่อมโทรมลง เทศบาลจึงต้องเข้ามาแทรกแซง เพื่อยุติกระบวนการเสื่อมสภาพของเมือง” เขากล่าว
ปัจจุบัน มีมากกว่า 90 เทศบาลทั่วประเทศ ที่ออกกฎระเบียบท้องถิ่นภายใต้แนวคิด “อัตลักษณ์ตนเอง” ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่นอกเขตเมืองใหญ่ และถูกมองว่ามีเป้าหมายมุ่งไปยังชนกลุ่มน้อยอย่างชาวโรมาโดยเฉพาะ
สมาคมเสรีภาพพลเมืองแห่งฮังการี (Hungarian Civil Liberties Union) ออกมาเตือนว่า กฎหมายฉบับนี้เปิดช่องให้เทศบาลใช้ข้ออ้างทาง “อัตลักษณ์” เพื่อกีดกันผู้คนที่ไม่ต้องการในพื้นที่
แอร์โน คาเดต บรรณาธิการศูนย์ข่าวโรม่า ระบุว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าชุมชนหนึ่งขับไล่คนที่พวกเขาเชื่อว่า ‘ไม่ควรอยู่ที่นั่น’? หมู่บ้านข้างเคียงก็จะออกข้อบังคับลักษณะเดียวกันเพื่อกันไม่ให้คนเหล่านั้นเข้ามา แล้วในที่สุด ทั้งภูมิภาคก็จะกลายเป็นพื้นที่ปิดสำหรับชาวโรมา
ข้อบังคับหลายฉบับยังมีเงื่อนไขเฉพาะ เช่น ผู้ซื้อบ้านต้องมีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมปลาย — ซึ่งชาวโรมาจำนวนมากเข้าไม่ถึงระบบการศึกษา นำไปสู่การกีดกันโดยพฤตินัย
จูดิต พูโซไม ชาวโรมาแม่ลูกเจ็ดเล่าว่า เธอถูกหลอกให้เซ็นเอกสารแลกเปลี่ยนทรัพย์สิน ทำให้บ้านของเธอตกเป็นของเทศบาลภายในหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะถูกสั่งรื้อถอนโดยไม่ทันตั้งตัว
ฉันพยายามคุยกับนายกเทศมนตรี เพื่อขอย้ายกลับไป แต่ไม่เคยได้พบเขาเลยสักครั้งเดียว” เธอกล่าว
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านบางส่วนกลับเห็นต่าง หญิงวัย 63 ปีรายหนึ่งยอมรับว่า “รู้สึกโล่งใจ” ที่ครอบครัวโรม่าซึ่งเธอมองว่าสร้างความวุ่นวาย “ย้ายออกไป”
ชาวโรมานี หรือ “ยิปซี” มีต้นกำเนิดจากเอเชียใต้ หลักฐานทางภาษาและประวัติศาสตร์ระบุว่า พวกเขาอพยพจากทางเหนือของอินเดียเมื่อราวพันปีก่อน เพื่อหลบหนีกองทัพอัฟกัน และค่อย ๆ กระจายเข้าสู่ยุโรป ผ่านซีเรีย กรีซ แอฟริกาเหนือ และคาบสมุทรบอลข่าน
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ชาวโรมาต้องเผชิญการเลือกปฏิบัติ ถูกห้ามใช้ภาษา วัฒนธรรม หรือแม้แต่ชื่อของตนเอง บางยุคสมัยถูกจับเป็นทาสและกดขี่อย่างหนัก ปัจจุบันยังมีประชากรราว 12–15 ล้านคนทั่วโลก ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในยุโรปตะวันออกและรัสเซีย
เดือนพฤษภาคม 2023 ที่ฝรั่งเศส งานชุมนุมเผยแพร่ศาสนาคริสต์ของชาวโรมากว่า 40,000 คน ในหมู่บ้านเนอวัว ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากคนท้องถิ่น เนื่องจากขาดสิ่งอำนวยความสะดวกและสร้างความเดือดร้อนเรื่องสุขาภิบาล
“พื้นที่ถูกใช้เป็นห้องน้ำกลางแจ้งไปหมด มันน่ารังเกียจมาก” ฌ็อง-ฟร็องซัว ดาร์มัวส์ นายกเทศมนตรีเนอวัว กล่าว
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี แต่ชาวโรมาในยุโรปยังคงเผชิญอคติ ความหวาดระแวง และการผลักไสจากสังคมหลัก ไม่ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นในฮังการีในวันนี้