เปิดใจ!เจ้าของร้านเสริมสวย ธ.ปลดล็อกบัญชี หลังถูกอายัด 5 เดือน
เปิดใจ!เจ้าของร้านเสริมสวย ธนาคารปลดล็อกบัญชีทันที หลังเป็นข่าว เผยถูกอายัดมานานกว่า 5 เดือนไร้การตรวจสอบ
วันที่ 16 ก.ย.2568 จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเคยนําเสนอข่าวของนางสาวตั๊ก เจ้าของธุรกิจร้านเสริมสวยคนหนึ่ง ซึ่งถูกอายัดบัญชีตามมาตราการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อายัดบัญชีม้า ทั้งที่ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถูกอายัดเพราะลูกค้าโอนเงินค่า ทําผมมาให้ 1,200 บาท สุดท้ายโดนอายัดทั้งบัญชีกว่า 300,000 บาท ไม่สามารถใช้เงินในบัญชีของตัวเองได้นานถึง 5 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันนี้ (16ก.ย.68) ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวอังศุมาลิน หรือ ตั๊ก เจ้าของร้านเสริมสวย อีกครั้งหนึ่ง
โดยทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านเสริมสวยของเธอ ซึ่งอยู่ ย่านลาดกระบัง เธอเล่าให้เราฟังว่า หลังจากที่ เรื่องราวของเธอถูกนําเสนอผ่านสื่อหลายสํานักรวมถึงอมรินทร์ทีวี ช่วงเย็นวานนี้ (15ก.ย.) ทางสํานักงานใหญ่ของธนาคาร ซึ่งเป็นธนาคาร ที่เธอเปิดบัญชี และถูกอายัด ได้ติดต่อโทรศัพท์เข้ามาหาเธอสอบถามถึง ความคืบหน้า และขั้นตอนการ ปลดล็อก การอายัดบัญชี และภายในระยะเวลาไม่นาน ช่วง 17 นาฬิกาของเมื่อวานนี้บัญชีเธอก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยทางธนาคารโทรศัพท์มาแจ้ง ได้ทําการปลดล็อกบัญชีให้แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังสงสัยคือธนาคารแจ้งว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับหนังสือเอกสารยืนยันการปลดล็อกบัญชีของเธอจากทาง ตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ สอท. ซึ่งต้องเป็นผู้ส่งเอกสารดังกล่าวมายังธนาคาร โดยตัวเธอเองนั้นมีเพียงเอกสารที่ได้จากสถานีตํารวจในพื้นที่ ซึ่งเธอเคยนําเอกสารนี้ไปยื่นให้กับธนาคารแล้วแต่ก็ไม่สามารถปลดล็อกได้สําเร็จ กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 5 เดือนและเธอเองมีโอกาสได้ร้องเรื่องนี้ผ่านสื่อ ธนาคารจึงเป็นฝ่ายติดต่อมาปลดล็อกให้กับตัวเธอเอง เพราะได้รับรู้เรื่องราวผ่านสื่อแล้วว่า มีความจําเป็นที่จะต้อง เร่งปลดล็อก
โดยเช้าวันนี้เธอเพิ่งเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อขอถอนเงินจากบัญชีดังกล่าว แต่ก็ยังไม่สามารถถอนได้ทั้งบัญชี โดยธนาคารอ้างว่า เงินสำรองไม่เพียงพอเธอจึงถอนมาเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็รีบนำเงินสดไปไถ่ทอง หนัก 2 บาท ที่เคยนำไปจำนำเอาไว้ช่วงที่ จำเป็นต้องใช้เงิน เพราะ เธอกลัวว่าในอนาคตข้างหน้าจะเกิดปัญหา ซ้ำอีก ในช่วงระหว่างที่บัญชีของเธอ ไม่สามารถใช้งานได้ก็ให้ลูกค้า โอนเงินเข้าบัญชีของสามีซึ่งยังกังวลว่าหากมีลูกค้าคนไหนที่เป็นบัญชีม้า แล้วโอนเงินเข้ามาจะทําให้บัญชีธนาคารของสามีเธอได้รับผลกระทบอีกหรือไม่ แต่ก็ไม่มีทางเลือกเพราะปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ใช้วิธีการจ่าย ด้วย การโอน หากไม่รับโอนก็กลัวว่าจะทําให้ลูกค้าลดน้อยลง
ขณะเดียวกันแม้บัญชีของเธอจะได้รับการปลดล็อกและสามารถใช้เงินในบัญชีได้แล้ว แต่เลขบัตรประชาชนประจําตัว 13 หลักของเธอยังไม่สามารถใช้เปิดบัญชีใหม่หรือใช้ทําธุรกรรมใด ๆ เกี่ยวกับทางการเงินได้ เพราะยังถูกล็อกเอาไว้ โดยตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเธอกังวลว่าจะเป็นปัญหาเนื่องจากใกล้ที่จะต้องรีไฟแนนซ์ อาคารพาณิชย์ที่ซื้อมาเพื่อทำธุรกิจแล้ว จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งตรวจสอบ เธอยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่างเพราะมั่นใจความบริสุทธิ์ของตัวเอง ขอเพียงอย่างเดียวให้คืนความเป็นธรรม สามารถใช้ชีวิตได้แบบปกติ
และอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเธอเชื่อว่ายังมีประชาชนอีกจํานวนมากที่ได้รับผลกระทบทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับวงโคจรของบัญชีม้า แต่เป็นเพียง ผู้ประกอบการที่ต้องรับโอนเงินจากลูกค้า เพื่อทําธุรกิจ ซึ่งไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกค้าคนไหน เป็นบัญชีม้า
Advertisement
