(6 ก.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสอบถามความคิดเห็นของประชาชน หลังรู้ผลการโหวตให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ซึ่งหลายคนบอกบอกว่าแม้จะรู้สึกดีใจที่ได้นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีการยุบสภามากกว่า และไม่ได้คาดหวังกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่
โดย นายยอดยิ่ง อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นคน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่รู้ผลโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ส่วนตัวตนไม่เห็นด้วย อยากให้ยุบสภามากกว่า ตนไม่อยากได้ นายอนุทิน มาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนายอนุทินมีทั้งเรื่องเขากระโดงและฮั้วการเลือกสว.อยู่ ถ้าเป็นไปได้อยากให้พรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทยจับมือกัน ตนไม่คาดหวังกับการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีเลย เวลา 4 เดือน จะทำอะไรได้ สิ่งเดียวที่ตนอยากให้เป็นคือ ยุบสภา แล้วเลือกตั้งใหม่คืนอำนาจให้ประชาชน
ส่วนในพื้นที่ของตนที่เป็นเขตพื้นที่สีแดงติดชายแดน ถึงนายอนุทินจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เหมือนเดิม ตนอยากให้ทหารเอาให้จบๆ ไปเลยถึงยังไงเขมรมันก็ไม่ยอม พวกตนจะออกไปทำมาหากินก็ลำบากทำอะไรก็ไม่ได้ถึงจะมีการยุบสภาใน 4 เดือนข้างหน้า แล้วมีการเลือกตั้งใหม่ ตนก็ยังจะเลือกพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม
ด้าน นางอุไร อายุ 53 ปี เปิดเผยว่า ตนเพิ่งรู้ว่าผลการโหวตนายกรัฐมนตรีได้ นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ส่วนตัวตนไม่ชอบนายอนุทิน เห็นตอนที่ลงมาหาเสียงช่วยลูกทีมในเขตพื้นที่ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายอนุทินชอบพูดโจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่ในวันนี้ผลการโหวตออกมาเป็นเอกฉันท์ว่าได้ นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีตนก็ต้องยอมรับ ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ช่วยเกษตรกรเรื่องราคาข้าว ราคายางพารา ราคามันสำปะหลัง ให้มีราคาดีขึ้นมากกว่านี้ อยากให้ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ดีขึ้น อยากให้แก้ปัญหาเรื่องความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา อยากให้สถานการณ์สงบสุข ชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตปกติ
Advertisement