พ่อเลี้ยงน้องตงเฮง ยืนยันลูกชายมีสัญชาติกัมพูชาจริง แต่พูดเขมรไม่ได้
พ่อเลี้ยงน้องตงเฮง ยืนยันลูกชายมีสัญชาติกัมพูชาจริง แต่พูดเขมรไม่ได้ เพราะเข้ามาไทยตั้งแต่ยังเล็ก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ 28 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงกรณีเหตุการณ์ดรามาครูนักเรียนร้องไห้กอดกันหลังจากตำรวจพาแม่ชาวกัมพูชาไปเชิญตัว น้องตงเฮง เด็กชายอายุ 13 ปี ออกจากโรงเรียนบัวเชดวิทยา อ.บัวเชดฯ เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา หลังพบว่าไม่มีเอกสารที่ได้รับอนุญาติถูกต้องตามกฏหมายตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดนายใบ หรือ นายศิริโชค เภาว์เพ็ง อายุ 67 ปี ยืนยันว่าตนเองเป็นพ่อเลี้ยง โดยนางมอม หรือนางเซียบ ฟารมอายุ 41 ปี มีลูกติดมาอยู่ด้วยตอนอายุ 3 ขวบ ก่อนที่ตนจะรับรอง ด.ช.ตงเฮง ระเสม็ย อายุ 13 ปี เป็นผู้ปกครองเพื่อให้ได้เรียนหนังสือชั้นประถมปีที่ 1-6 ก่อนจะเข้าเรียนต่อม.1 ที่ร.ร.บัวเชดวิทยาฯ และยืนยันว่า ด.ช.พูดภาษาเขมรไม่ได้ เนื่องจากมาอยู่ตั้งแต่เด็กเล็ก ตอนที่ภรรยาเข้ามาทางช่องสะงำนั้น ลูกชายมาทีหลัง เข้ามาตอนประมาณ 8-9 ปีที่แล้ว เพราะว่าภรรยามาอยู่ได้ 8 ปีแล้ว
จากการสอบถามของจนท.ตำรวจขณะเข้าจับกุมที่หมู่บ้านโนนสังข์ ต.บัวเชด อ.บัวเชด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ นางเซียบฟารม (SEAPPHAROM) ให้การว่าตนเกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.พ.ศ.2530 อายุ 38 ปี ที่อยู่เดิมตำบลกัมปงจาม อำเภอบันเตียร์จังหวัดกัมปงจาม สัญชาติกัมพูชา และเด็กชายตงเฮง ระเสม็ย เกิด 7 ก.พ.2555 อายุ 13 ปี ที่อยู่เดิมตำบลกำปงจาม อำเภอบันเตียร์ จังหวัดกัมปงจาม สัญชาติกัมพูชา ซึ่งตนเป็นบุคคลสัญชาติกัมพูชาจริง
และยังให้การว่าเมื่อปี 2553 ได้พบกับสามีไทย ซึ่งข้ามไปเล่นการพนันที่กาสิโนช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ต่อมาปี 2555 นางเซียบฯได้คลอดเด็กชายตงเฮง ที่อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาในปี 2561 นางเซียบฯได้พาเด็กชายตงเฮง ซึ่งเป็นบุตรของตนเองกับสามีเป็นชาวกัมพูชา ก่อนที่ตนจะลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติใกล้ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มาอยู่อาศัยกับชายชาวไทยที่บ้านโนนสังข์ ต.บัวเชดฯ ก่อนถูกจับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทั้งสองแม่ลูกนอนพักอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุรินทร์ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จนท.ตม.สุรินทร์ พร้อมกับสหวิชาชีพจะเข้าไปสอบปากคำอีกครั้ง
ขณะที่ พ.ต.อ.สราวุธ ศรีวิฑูลย์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากได้รับแจ้งก็ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก็ได้ตัวผู้หญิงมาคนหนึ่งตรวจสอบหลักฐานไม่มีไม่ถูกต้อง ก็ต้องนำตัวมาเพื่อจะผลักดันกลับสอบถามสามารถพูดไทยได้ เขาบอกว่ามีลูกเรียนหนังสืออยู่ก็คิดอยู่ว่าถ้าเอาแม่ไปแล้วลูกจะอยู่กับใคร ก็เลยต้องเอาตัวลูกกลับไปด้วย ก็เลยไปเชิญตัวลูกมาด้วยหลักฐานที่แม่มีก็คือใบบอร์เดอร์พาสที่เข้ามาทางช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ แต่ไม่มีการปั๊มที่ฝั่งไทย ก็ถือว่าคุณเข้ามาไม่ถูกต้อง ส่วนพ่อเด็กเป็นเพียงแค่พ่อเลี้ยงที่บอกว่าไม่มีญาติอยู่ทางฝั่งกัมพูชานั้น ก็เห็นว่าช่วงที่อยู่ไทยเขากลับไปหาญาติที่อยู่ฝั่งนั้นเช่นกัน
Advertisement
