วันที่ 22 ส.ค. 68 เกิดเรื่องฮือฮาใน จ.เชียงใหม่ และในโลกโซเชียล จู่ๆมีฝูงห่านจำนวน 10 ตัว มาอยู่อาศัยบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ฝั่งทิศใต้ และมีการทำเล้าไม้ไผ่ไว้เสร็จสรรพ โดยปล่อยฝูงห่านเดินวนเวียนไปมา และลงว่ายน้ำหาหอยหาปลากิน บางครั้งก็เดินขึ้นไปบนทางเท้า และถนน จนผู้คนแตกตื่น พากันหยุดรถดู แม้จะมีความน่ารักสวยงานของฝูงห่านสีขาวสวยว่ายน้ำ และเดินไปมา แต่กลายเป็นปัญหาไปแล้ว ตอนนี้เริ่มส่งผลกระทบกับการจราจร ที่ฝูงห่านข้ามถนนไปมา คนที่ทราบข่าว หรือนักท่องเที่ยวพากันไปดู และถ่ายภาพฝูงห่าน บางช่วงก็จอดรถมาดู ทำให้เริ่มเกิดปัญหาจราจรขึ้น
ซึ่งทางเทศบาลยืนยันว่า เป็นฝูงห่านของเทศบาลเอง ที่มีแนวคิดว่าจะนำมากำจัดวัชพืชจำพวกจอกแหนที่แพร่ในคูเมือง และเสริมความน่ารักสวยงามให้กับคูเมืองด้วยฝูงห่าน แต่ตอนนี้เสียงแตก หลายคนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยทั้งกับฝูงห่านที่อยู่แปลกที่ อาจจะถูกรถเชี่ยวชน หรืออาจจะเกิดอันตรายกับผู้คนที่สัญจรไปมา
ล่าสุดมีชาวเชียงใหม่ และโลกโซเชียลแห่แชร์ภาพคลิป และข้อเป็นห่วงจากผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งชื่อว่า “Oil Kanyaporn”ได้โพสต์คลิป และภาพช่วงกลางคืนเวลาประมาณ 22.00 น. พร้อมข้อความว่า “วันนี้ตอนอยู่ กทม.เลื่อนหน้าฟีตเห็นมีข่าวเทศบาลเอาน้องห่านมาปล่อยคูเมืองเชียงใหม่ พอบินกลับมาถึงเชียงใหม่กำลังจะเข้าบ้าน ผ่านคูเมืองแถวกาดประตูเชียงใหม่ แล้วหันไปเห็นฝูงน้องว่ายไปว่ายมา แล้วมีคนกำลังเอาหินริมคูเมืองเขวี้ยงใส่ อีกคนก็ไล่จับน้องอยู่ ไอ้เราก็นึกว่าคนเขาจะมาทำร้ายเลยจะเข้าไปห้าม!!! พอเข้าไปพี่เขาบอกว่า เขาเป็นคนของเทศบาลกำลังไล่ต้อนเด็กๆ เข้าเล้า ที่ทำไว้ริมคูเมือง นี่ 10 ตัว ยังไล่ต้อนกันอลหม่านพินาศมาก”
“มีช่วงหนึ่งน้องว่ายไปขึ้นฝั่งถนน แล้ว 8 ตัววิ่งกันลงเต็มถนน รถที่ขับมาชะลอแทบไม่ทัน คนละแวกนั้นก็แตกตื่น กลัวน้องจะโดนรถชนเอาแล้วได้ยินว่าแผนจะเอามาปล่อยทั้งหมด 200 ตัว ฉันนี่เอามือทาบอกเลยอ่ะ”
“เอ็นดูเด็กๆ ทั้ง 10 ตัวมากกกกกก และเอ็นดูวววพี่เทศบาลทั้ง 4 คน ที่คอยไล่ต้อนฝูงห่านเข้าเล้าด้วย ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเอาน้องห่านมาปล่อยรอบคูเมืองแบบไม่มีอะไรกั้นแบบนี้เลย พอไม่ได้มีการจัดสรรพื้นที่ ไม่มีอะไรกักบริเวณ น้องอาจโดนรถเหยียบ หรือถ้าคนที่ขับรถบนท้องถนนขับมาเจอแล้วเบรกกะทันหันก็อาจเกิดอุบัติเหตุได้ ปล.ฝากถึงเทศกาลเชียงใหม่ กรุณาทบทวนพื้นที่ทำงานของน้องห่าน และอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นด้วยค่ะ”
ซึ่งในคลิปภาพแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของเทศบาล 4-5 คน ต่างก็พยายามต้อนฝูงห่าน เพื่อให้เข้าเล้าไม้ไผ่ ที่สร้างขึ้นริมคูเมืองในจุดดังกล่าว แต่ฝูงห่านแตกตื่นวิ่งลงไปบนถนน และมีช่วงหนึ่งเกือบเกิดอุบัติเหตุกับรถที่สัญจรไปมา ฝูงห่านยังแตกตื่นลงน้ำหนี เจ้าหน้าที่ที่ไล่ต้อนจับเข้าเล้าจนต้องกระโดดลงน้ำคูเมือง ปาหินปาข้าวของ เพื่อไล่ต้อนฝูงห่านนานเป็นชั่วโมงกว่าจะจับเข้ากรงได้ทั้งหมด และมีการแชร์โพสต์นี้ออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลายคนส่วนใหญ่แสดงความไม่เห็นด้วยกับการนำฝูงห่านมาเลี้ยง เพียงเพื่อเหตุผลให้มาช่วยกำจัดจอกแหน แม้จะนำมาทดลอง 1 สัปดาห์ แต่ตอนนี้เริ่มวุ่นวายหนักขึ้น ทั้งอันตรายกับฝูงห่านเองที่จะถูกรถชน อันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน หลายคนทราบดีว่าธรรมชาติพฤติกรรมของห่านจะดุ หากถูกรบกวนก็จะวิ่งเข้าใส่ และจิกกัด ห่วงว่าจะเกิดขึ้นกับชาวบ้าน หรือนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้เรื่องสุขอนามัยเองธรรมชาติของห่าน ก็จะถ่ายของเสียเรี่ยราด และมีกลิ่นเหม็นมาก ก็อาจจะส่งผลให้เกิดผลกระทบตามมากับน้ำคูเมืองหรือพื้นที่โดยรอบที่ห่านอยู่อาศัย
นายธีรวุฒิ แก้วฟอง อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ จากพรรคประชาชนเอง ก็เกาะติดเรื่องนี้อยู่ และตั้งข้อสังเกตว่า “ห่านในคูเมือง แก้ปัญหาน้ำเสียได้จริงหรือ?”
เทศบาลมีไอเดียเลี้ยงห่านในคูเมืองเชียงใหม่ บอกว่าจะช่วยกินจอกแหนลดสาหร่ายฟังดูน่ารักดีแต่ถามจริง นี่คือการแก้ปัญหาน้ำเสียจริงๆ หรือ?
ข้อเท็จจริงคือ
•ห่านกินได้แค่จอกแหน แต่ไม่แตะสาหร่ายสีเขียวที่ทำให้น้ำเขียวขุ่น
•มูลห่านคือปุ๋ยเพิ่มไนโตรเจนฟอสฟอรัสให้น้ำเน่าเสียหนักกว่าเดิม
•ถ้าห่านเดินขึ้นถนนเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทั้งสัตว์ และคนก็เดือดร้อน
การแก้ปัญหาน้ำเสียต้องเริ่มที่บำบัดน้ำจากตลาด และชุมชนไม่ใช่ฝากความหวังไว้กับห่าน สิ่งที่เมืองเชียงใหม่ต้องการไม่ใช่ห่านมาว่ายในคูเมือง แต่คือนโยบายบำบัดน้ำเสียที่จริงจังและยั่งยืนมากกว่าครับ”
อย่างไรก็ตามเพียงแค่วันเดียวที่เริ่มทดลองนำห่านมาเลี้ยงริมคูเมืองก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง จึงอยากให้เทศบาลนครเชียงใหม่เองทบทวนเรื่องนี้ ก่อนที่จะเกิดปัญหาและความเสียหายขึ้น หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เป็นแนวคิดของใครท่านผู้บริหารหรือฝ่ายไหน
Advertisement