(25 ก.ค. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนบ้านคลองลึก-คลองหาด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังคงเต็มไปด้วยชาวกัมพูชาจำนวนมากที่เดินทางมารอเพื่อขอข้ามกลับประเทศ ท่ามกลางความเงียบสงบที่ปกคลุมไปด้วยความตึงเครียด หลังจากทางการไทยมีคำสั่ง "ปิดด่านทุกด่านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา" อย่างไม่มีกำหนด ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 2568) สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษ
ก่อนหน้านี้ทางการไทยได้อนุโลมให้แรงงานชาวไทยที่ทำงานในฝั่งกัมพูชา สามารถข้ามกลับเข้าประเทศได้เป็นกรณีพิเศษเพียงวันเดียว ทำให้วานนี้ มีแรงงานไทยจำนวนมากเร่งรีบนำข้าวของเดินทางกลับเข้าประเทศผ่านด่านคลองลึก แต่ในช่วงเช้าของวันนี้ (25 ก.ค. 2568) เมื่อเวลา 06.30 น. ประตูหน้าด่านพรมแดนบ้านคลองลึกยังคงปิดสนิทไม่อนุญาตให้มีการเข้าออกแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทยทยอยเดินทางมารวมตัวบริเวณหน้าด่าน เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่และรอความหวังว่าจะมีการเปิดด่านให้เดินทางกลับประเทศได้ ขณะเดียวกันบริเวณหน้าด่านยังพบว่ามีรถแท็กซี่และรถรับจ้างหลากหลายคันมาจอดรอรับผู้โดยสารแน่นพื้นที่ แม้จะยังไม่มีสัญญาณใดๆ จากเจ้าหน้าที่ว่าจะมีการอนุโลมให้เปิดด่านก็ตาม
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะทหารจากหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ได้เสริมกำลังดูแลความปลอดภัยตลอดทั้งคืน พร้อมจัดกำลังตรึงพื้นที่โดยรอบเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการชุมนุมหรือแรงกดดันจากฝั่งแรงงานต่างชาติ ที่รอเดินทางกลับ
ขณะเดียวกัน นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด่านชายแดน พร้อมสั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมวางแนวทางปฏิบัติและออกคำสั่งให้พื้นที่ชายแดน 4 อำเภอ ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ อรัญประเทศ, โคกสูง, ตาพระยา และวังน้ำเย็น ต้องยกระดับการเฝ้าระวังและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามและส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะเปิดด่านเมื่อใด โดยทางการยังคงจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ทั้งด้านมนุษยธรรมความมั่นคงและความปลอดภัยในพื้นที่แนวชายแดน
Advertisement