วันนี้ (30 มิถุนายน 68) ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พานางสาวขวัญ อายุ 37 ปี เดินทางมาร้องเรียนที่สำนักปลัด กระทรวงสาธารณสุข หลังหมอวินิจฉัยพบว่าป่วยเป็นมะเร็งแต่สุดท้ายไม่ได้เป็นจริง
นางสาวขวัญ เผยว่า เมื่อปี 2562-2563 ตนมีก้อนเนื้อที่หลังจึงไปตรวจที่รพ.แห่งหนึ่ง ในจ.นครราชสีมา โดยหมอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจสอบ และวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระดูก จากนั้นหมอก็ได้พูดคุยเรื่องการรักษา และพักรักษาตัวหลายเดือน ซึ่งตนตัดสินใจไม่รักษาตัว เนื่องจากว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว จึงไม่สามารถพักฟื้นหรือหยุดทำงานเป็นเวลานานได้
จนเมื่อปี 2567 ตนได้แต่งงานมีครอบครัวใหม่ และพบว่าตั้งครรภ์จึงไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.ชัยภูมิ พร้อมผลตรวจจากโรงพยาบาลแรก (จ.นครราชสีมา) เพื่อให้หมอวินิจฉัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ โดยหมอไม่ได้ตรวจซ้ำแต่เป็นการยึดผลจากโรงพยาบาลแรก ซึ่งหมอแนะนำให้ตนยุติการตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยทั้งแม่และลูก ตนจึงตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์
ต่อมาในปี 2568 เธอพบว่ามีก้อนเนื้อบริเวณคอ ตนเป็นกังวลว่ามะเร็งอาจจะลุกลาม จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่หมอได้มีการส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานครเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม จนกระทั่งหมอพบความผิดปกติ จึงมีการรีเช็คตรวจ MRI และ CT Scan ใหม่ทั้งหมดทั้งคอและหลัง ผลสรุปคือตนไม่ได้เป็นมะเร็งทั้งคอและหลัง
ตนรู้สึกตกใจและอยากรู้ว่าเกิดความผิดพลาดตรงไหน ตรงผลแล็บหรือผลวินิจฉัย จึงเดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ทำการตรวจสอบเนื่องจากว่าตนก็เสียทั้งลูกและเสียกำลังใจในระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อทราบว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง จึงร้องขอคงามช่วยเหลือจากมูลนิธิเป็นหนึ่ง และขับรถจากชัยภูมิมาร้องขอความเป็นธรรมคนเดียว
ทั้งนี้ตั้งแต่หมอมีการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ตนไม่มีอาการอะไรเลย สภาพร่างกายแข็งแรง ทำงานได้ตามปกติทุกอย่าง แต่พอหมอแจ้งว่าป่วยมะเร็งก็ทำให้ตนจิตตก ไปหาหมอหมอก็ให้ตนทำใจ
ด้านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ลงมารับเรื่องด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยว่า จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งระบบและมีการส่งผู้ตรวจราชการของกระทรวงสาธารณสุขลงไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล ยืนยันว่าเรื่องนี้ตรวจสอบได้จากเวชระเบียน ซึ่งเรื่องนี้ตนพร้อมให้ความเป็นธรรม หากเกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่เรา จะมีกระบวนการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ตลอดจนเรื่องของการเยียวยา และการดำเนินการวินิจฉัยว่ามีข้อผิดพลาดอย่างไร โดยจะเร่งตรวจสอบเร็วที่สุด ส่วนผู้เสียหายก็จะมีการส่งเรื่องไปยังสถาบันมะเร็ง เพื่อตรวจสอบว่าป่วยเป็นมะเร็งจริงหรือไม่
Advertisement