ป้า ถูกจับปลูกกัญชาจูงมือลุงไปสะเดาะเคราะห์ หลังศาล จ.ชลบุรีปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อนบ้านถ่ายคลิปเป็นหลักฐานหวั่นตำรวจปลอม ไม่เจตนากลั่นแกล้ง
วันนี้ 1 มิ.ย.65 จากกรณีเมื่อวานนี้ พลตำรวจตรี ไชยพจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะโฆษก ตร.ภ.2 ได้ชี้แจง ให้ นายตำรวจระดับสูงของ ตร.ภ.2 มีหนังสือคาสั่งให้ ข้าราชการตำรวจภูธรศรีราชา จ.ชลบุรี จำนวน 4 นาย ที่ร่วมจับกุม นาง พรพิมล ประกอบผล อายุ 56 ปี ดำเนินคดี ในข้อหา ปลูกกัญชาเพื่อรักษาโรคประจำตัว สูงแค่ 1 ฟุต น้ำหนัก 20 กรัม จำนวน 1 ต้น โดยขาดจากต้นสังกัด ตั้งแต่เมื่อสวาน 31 พ.ค.65 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
จากการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นกรณีที่ ข้าราชการตำรวจทั้ง 4 นาย ฝ่าฝืนนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่เคยมอบนโยบายให้ใช้หลัก นิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กันในการดูทุกข์สุขประชาชน แต่ตร.ทั้ง 4 นาย ไม่ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด
เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนถ่านการบังตับใช้กฎหมาย และมีนโยบายในการปฆิบัติหน้าที่ให้แก่ข้าราชการตำรวจโดยทั่วไปแล้ว แต่ยังมีข่าราชการตำรวจบางนายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามและอยู่รักษาการตรวจสอบ ปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้น จึงให้ข้าราชการตำรวจดังกล่าว มาปฏิบัติหน้าที่ ศปก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นการชั่วคราว ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ ตร.ภ.2 จะได้กำชับการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายของวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเคร่งครัด
ล่าสุด วันนี้ 1 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวชลบุรี เดินทางไปที่วัดบ้านห้วยกรุ ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปพบ นาง พรพิมล ประกอบผล อายุ 56ปี นำเครื่องสังฆทานจูงมือ ลุงว ชู สามี ไปถวายเพื่อสะเดาะห์เคราะห์และเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับ พระครูสุมลธรรมมานุกูล เจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยกรุ พร้อมทั้งกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และขออย่าให้เกิดเรื่องเลวร้ายนเช่นที่ถูกจับในครั้งนี้
จากนั้น ที่งสามีภรรยา พาไปที่บ้านเกิดเหตุ พร้อมไปดูสถานที่หน้าบ้านเช่า ที่ถูก 4 ตร.ร่วมกันจับกุม ที่ปลูกกัญชาไว้รักษารึค ไม่ได้เสพหรือนำไปขาย และปลูกได้เพียง 1 เดือน ตค้นยังอ่อน สูงขน่าด 1 ฟุตเท่านั้น และตอนนี้ก็ไม่ได้ปลูกเพราะ ต้นนั้รถูกตร.ถอนไปเป็นกลักฐาน
นาง พรพิมล กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันเกิดเหตุช่วงบ่ายของวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน ก็มี ตร.สภ.ศรีราชา 2 นาย มาแบบนอกเครื่องแบบ มาถามว่า มีรถ จยย.แปลกๆ มาแถวนี้มั้ย ตนตอบว่าไม่เห็น ตร.เดินไปเห็นแปลงผักที่ปลูกผักสวนครัวไว้ที่หน้าบ้านสว่า เป็นของตนหรือเปล่า คนตอบว่าใช่ ตร.บอกว่า แอบลักลอบปลูกกัญชาด้วย ต้องวจับกุม ตนก็งง เพราะว่า ที่ปลูกเพื่อรักษาโรค ไม่ใช่เพื่อเสพ แต่ ตร.ก็ยืนยันจะจับ พร้อมจะใส่กุญแจมือ ตนไม่ยอม บอกว่าให้รอสามีก่อน ตร.ก็ไม่ฟัง จะเอาตัวไปโรงพักให้ได้
นาย ณรงค์ศักดิ์ ยืนยง อายุ 50 ปี อาชีพส่งปลาน้ำจืด เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง ได้ยินเสียงเอะอะโวบวาย จึงเขจ้ามาช่วย พร้อมสอบถามว่า เป็น ตร.จริงหรือไม่ เพราะมานอกเครื่องแบบ ก็ไม่ไว้ใจ เพราะกลีวว่า ไม่ใช่ ตร.จริง เป็นพวกมิฉาชีพ จึงเอามือถือมาถ่ายคลิป จึงทำให้ 2 ตร.ไม่พอใจ สุดท้าย จึงวจับกุม นางพรพิมล พร้อมยึดกัญชาไป
นางพรพิมล บอกอีกว่า ตนยืนยันว่า วันที่ 9 มิ.ย.จะปลดล็อกแล้ว จับทำไม ให้ตนทำลายก็ได้ แต่ ตร.ไม่พอใจที่ถูกถ่ายคลิป จนจับกุมในข้อหา ครอบครองยาเสพติดประเภท 5 ตนเป็นคนจน ไม่มีเงินประกันตัว ก็ต้องนอนคุก 1 คืน จนกระทั่ง เมื่อวานนี้ ศาล จ.ชลบุรี ให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ให้ไปรายงานตัว เดือนหน้า ตนจึงรู้สึกโล่งใจ
จนกระทั่ง มาทราบข่าวว่า นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีคำสั่งให้ 4 ตร.สภ.ศรีราชา ย้ายไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.ชลบุรี โดยไม่มีกำหนด ก็รู้สึกเสียใจ เพราะเขาต้องปฏิบัติหน้ที่ แต่ต้องดูว่า เจตนาและมนุษยธรรม เพราะตนไม่มีเจตนา จะปลูกเพื่อจำหน่ายหรือเสพเพื่อยาเสพติด และต้นกัญชาก็เล็กมาก เหมือนเป็นการกลั่นแกล้ง อยากเตือนประชาชนว่า ตอนนี้อย่าเพิ่งปลูก ให้ปลดล็อกในวันที่ 9 มิ.ย.65ไปก่อน
นายณรงค์ศักดิ์ ยืนยง เพื่อนบ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะถ่ายบันทึกภาพตำรวจเข้ามาจับกุม วันนั้น ตนได้ยินเสียงเอะอะโวยวายกันอยู่ จึงเดินมาถามว่า มีอะไรกัน 2 ตร.ก็บอกว่า มาจับกัญชาของวป้าพรพิมล ตนก็ถามกลับไปว่า เป็น ตร.จริงมั้ย เพราะไม่เห็นสวมเครื่องอบบตำรวจ มานอกเครื่องแบบ จึงไม่ไว้ใจ เพราะกลัวเหมือนที่เห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ ว่ามิฉาชีพมาในหลายรูปแบบ จึงเดินกลับบ้านไปหยิบมือถือมาถ่ายไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน หากไม่ชอบมาพากล แต่ 2 ตร.กลับมาต่อว่า และไม่พอใจที่ตนถ่าย พร้อมกับพูดท้าทายให้ลงโซเซศี่ยวไปเบลย ไม่มีใครช่วยได้ และไม่พอใจจึงเร่งจับกุมนางวพรพิมลไป
แต่วันนี้ทราบว่า 4 ตร.ถูกย้ายเข่าไปช่วยราชการแล้ว ตนรู้สึกว่า ตร.ยุคใหม่มีความยุติธรรมและเข้าใจประชาชนมากขึ้น เพราะการที่มาจับกุม ก็ต้องเป็นภาพลักษณ์ที่ดี ไม่ว่ามาแบบกองโจร ทำให้ประชาชนหวาดกลัวและไม่ที่พึงในยามทุกข์สุข ตนยันว่าที่ถ่ายไว้ ไม่ใช่ไว้ขู่หรือกรรโชก แต่เป็นการป้องกันตัวไว้ก่อน หากเป้น ตร.จริงก็ไม่เห็นต้องมากลัวอะไร เพราะ ตร.มีหน้าที่ในการจับกุมผู้กระทำผิดอยู่แล้ว
Advertisement