สีในโลกของทหารควร "เงียบ" ที่สุด แต่หน่วยรบพิเศษของฮุนเซนกลับเรืองแสง "BHQ" เบื้องหลังเครื่องแบบสีน้ำเงินสว่าง ที่ขัดกับหลักยุทธวิธีแทบทุกข้อ
ในโลกของการทหาร การปรากฏตัวคือความเสี่ยง ในทุกสนามรบ เครื่องแบบจึงต้องไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนเห็นได้ง่าย แต่ควรเป็น "เครื่องมือพรางตัว" ที่ช่วยให้ทหารหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้า
แต่หน่วยคุ้มกันผู้นำของกัมพูชา หรือที่เรียกว่า BHQ – Bodyguard Headquarters กลับแตกต่างออกไป ยูนิฟอร์มสีน้ำเงินฟ้าอ่อน ที่โดดเด่น สะดุดตา แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากแนวทางของหน่วยทหารในประเทศอื่น ๆ
คำถามคือ ทำไมเครื่องแบบของ BHQ ถึงเลือกใช้ "สีที่มองเห็นได้ชัดเจน" แทนที่จะใช้โทนสีเข้มหรือสีพรางตัวเหมือนทหารหน่วยอื่น?
มีจุดประสงค์อะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังความเลือกสีที่ขัดกับหลักยุทธวิธีแทบทุกข้อ?
1.1 สีในโลกของทหารควรเงียบให้ได้มากที่สุด
การเลือกสีเครื่องแบบของทหารมีพื้นฐานมาจาก "ภูมิประเทศ" และ "สภาพแวดล้อม" ที่จะต้องปฏิบัติการ ตัวอย่างเช่น
• เขียว-น้ำตาลลายพราง (Woodland Camo) : เหมาะกับพื้นที่ป่า ภูเขา และเขตร้อน
• ทราย-เบจ-น้ำตาลแดง (Desert Camo) : ใช้ในภูมิประเทศทะเลทราย เช่น ตะวันออกกลาง
• เทา-น้ำเงินเข้ม-ดำ : ใช้ในพื้นที่เมือง, กลางคืน, หรือหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย (Anti-terrorism units)
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ "พรางสายตา" แต่ยังรวมถึง การลดการสะท้อนแสง, ลดความร้อนจากอินฟราเรด, และยากต่อการตรวจจับจากกล้องส่องทางไกล
1.2 เทคโนโลยีการตรวจจับยุคใหม่
• กล้องอินฟราเรด (IR) สามารถจับความร้อนของร่างกายมนุษย์จากระยะไกล
• โดรน ที่ติด AI vision จะวิเคราะห์สีที่ “แปลกจากธรรมชาติ” ได้ง่ายมาก
• กล้องส่องกลางคืน (NVG) สามารถเห็นวัตถุที่ไม่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ
สีที่ "แตกต่างเกินไป" เช่น ฟ้าอ่อน ขาว หรือเหลือง คือ ของแสลง ในสนามรบ เพราะทำให้ทหารหรือหน่วยรบ "เรืองแสง" จากระยะหลายร้อยเมตร
2.1 โดดเด่นเกินไปในภารกิจความมั่นคง
เครื่องแบบสีฟ้าอ่อนของ BHQ ทำให้พวกเขากลายเป็น
• จุดสนใจหลักในทุกภาพถ่ายและวิดีโอ
• เป้าหมายอันดับหนึ่งในสถานการณ์ลอบยิง
• จุดสะดุดตาสำหรับพลแม่นปืน (sniper)
นี่เทียบได้กับการให้หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใส่เสื้อสะท้อนแสงในระหว่างภารกิจลับ
2.2 ละเมิดหลัก "Security by Obscurity"
แนวคิดการอารักขาบุคคลสำคัญ (VIP Protection) ในระดับโลกมีหลักการที่ชัดเจนคือ
• พรางตัวมากที่สุด
• ไม่เปิดเผยตำแหน่งของทีมคุ้มกัน
• แฝงอยู่ในฝูงชน เพื่อป้องกันการโจมตีแบบกำหนดเป้า
แต่ BHQ กลับมีลักษณะตรงกันข้าม แสดงตนชัดเจน บ่งบอกว่า "ฉันคือคนคุ้มกันผู้นำ" อย่างไม่ปิดบัง
2.3 เสี่ยงต่อสงครามยุคใหม่
ในกรณีสงครามเมืองหรือสงครามกองโจร
• การแต่งชุดฟ้าอ่อน = การขาดความยืดหยุ่นในการเคลื่อนที่
• ไม่สามารถแฝงตัวในพื้นที่ปฏิบัติการร่วมกับทหารจริง
• มีความเสี่ยงต่อการสังหารหมู่ในกรณีถูกซุ่มโจมตีหรือระเบิดพลีชีพ
3.1 การสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ของอำนาจ
ในระบอบอำนาจนิยม เช่นในกัมพูชา สื่อสารด้วย "ภาพ" และ "สัญลักษณ์" มากกว่าเนื้อหา
เครื่องแบบที่โดดเด่น = สื่อถึงอำนาจที่โดดเด่น
• สีน้ำเงินสื่อถึง อำนาจ, ระเบียบ, ความมั่นคง หรืออีกนัยหนึ่งคือ ความเชื่อมโยงกับสีบนธงชาติกัมพูชา อาจสื่อถึงความรักชาติ, ในฐานะของประเทศกัมพูชา
• ในบางบริบท สีน้ำเงินอ่อนอาจถูกเลือกเพื่อ "ลดความแข็งกร้าว" ของทหาร เหมาะกับการแสดงออกในที่สาธารณะหรือพิธีการ
3.2 ความพิเศษเหนือทหารปกติ
BHQ ไม่ใช่ทหารธรรมดา แต่เป็น "หน่วยคุ้มกันผู้นำ" จึงอาจตั้งใจให้เครื่องแบบต่างจากทหารทั่วไปเพื่อ
• แสดงว่าเป็น "ชนชั้นเหนือกว่า"
• ทำให้ประชาชนจดจำได้ทันทีว่าเป็น "ทหารของผู้นำ"
• แยกแยะจากกองกำลังอื่นที่อาจไม่จงรักภักดี
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เครื่องแบบอาจไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อ "ความปลอดภัย" แต่เพื่อ "ประกาศความภักดี"
4.1 "ยิ่งเด่น ยิ่งอันตราย"
ในภาวะปกติ สีฟ้าอ่อนอาจไม่ก่อปัญหา แต่เมื่อเกิดความรุนแรง คนที่ใส่ชุดสีเด่นจะกลายเป็น เหยื่อรายแรก ในสถานการณ์ เช่น
• การจลาจล
• ความวุ่นวายในพิธีการ
• ความพยายามลอบสังหารจากระยะไกล
4.2 ขัดกับยุทธวิธีในศตวรรษที่ 21
ในสงครามยุคใหม่ เครื่องแบบมักมีฟังก์ชันที่ผสาน
• เทคโนโลยีพรางอินฟราเรด (IR suppressive fabric)
• การต้านกล้องถ่ายภาพความร้อน
• การลดเสียงจากการเคลื่อนไหว
สหรัฐอเมริกา : หน่วย Secret Service หรือ หน่วยสืบราชการลับ/ ดำเรียบ/สูทเทา/ พรางตัวในฝูงชน
รัสเซีย : หน่วย FSO หรือ หน่วยการป้องกันกลาง / เขียวเข้ม/ดำ / ใช้ลายพรางในพื้นที่ปฏิบัติการ
เกาหลีเหนือ : Guard Command หน่วยอารักขาผู้นำ/ เขียว/น้ำตาล/ดำ / โทนเข้มเสมอ
จีน : ตำรวจติดอาวุธประชาชน (PAP) /เขียวลายพราง/พรางตัวเป็นหลัก
กัมพูชา : BHQ หน่วยอารักขาผู้นำ / ฟ้าอ่อน / สะดุดตา, เน้นพิธีการ
จะเห็นได้ว่า BHQ มีแนวทาง "สวนทาง" กับแนวคิดการอารักขาแบบสากล
ความเห็นจากเพจฯ Army Military Force มองว่าสีน้ำเงินสว่างของหน่วย BHQ #เป้าชัดดี พร้อมเผยด้วยว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ "เหนือกว่า" ทหารกัมพูชาในทุกด้าน รวมถึงเงินเดือนด้วย
BHQ 246 : หน่วยรบพิเศษของ "ฮุนเซน" ที่ถูกสร้างขึ้นจากความหวาดระแวงต่อกองทัพกัมพูชา
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ BHQ 246 คือกำลังพลชั้นยอดที่มีหน้าที่หลักในการอารักขาและปกป้องบุคคลสำคัญ รวมถึงสมาชิกในตระกูลฮุนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ฮุนเซน, ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน หรือสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัว
หน่วยนี้มีความเหนือกว่ากองทัพกัมพูชาทั่วไปในทุกด้าน ทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องแบบที่ทันสมัย รวมถึงได้รับเงินเดือนที่สูงกว่าทหารทั่วไปหลายเท่า ซึ่งรายงานของสื่อเวียดนามเคยวิเคราะห์ไว้เมื่อ 3 ปีก่อนว่า การสร้างกองกำลังติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นนี้ เป็นผลมาจากความหวาดระแวงของฮุนเซนที่กลัวว่าสักวันหนึ่งกองทัพอาจก่อการรัฐประหารเพื่อยึดอำนาจจากเขา
ด้วยเหตุนี้ กองทัพกัมพูชาทั่วไปจึงถูกปล่อยปละละเลยมาโดยตลอด ทั้งในด้านงบประมาณ กำลังพล และการจัดซื้ออาวุธที่ทันสมัย รายงานระบุว่ามีนายทหารสัญญาบัตรหลายพันนายที่ยังคงต้องสวมรองเท้าแตะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนสภาพความเป็นอยู่ของทหารชั้นประทวนและพลทหารนั้นย่อมย่ำแย่ยิ่งกว่า"
แหล่งอ้างอิง
1. U.S. Army Field Manual FM 20-3: Camouflage, Concealment, and Decoys
2. BBC Future: Why military uniforms use camouflage
3. Military.com: The Color of Combat – How uniforms are optimized for survival
4. Reuters (2023): Cambodia’s Bodyguard Unit: Power behind Hun Sen
5. Human Rights Watch: Cambodia: Elite Bodyguard Unit and Political Violence
6. The Diplomat: Cambodia’s Military Elites and Authoritarian Stability
7. UNODC: Use of Force and VIP Protection Training Manuals
8. ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์กองทัพบกไทย: บทวิเคราะห์เครื่องแบบทหารในศตวรรษที่ 21
Advertisement