
(27 ธ.ค. 2568) บรรยากาศที่ศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแกนนำกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย น.ส.ศุภมาศ อิสรภักดี แกนนำพรรคภูมิใจไทย นำผู้สมัคร สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย ทั้ง 33 เขต เข้ารับสมัครรับเลือกตั้ง เดินทางมาถึงเป็นพรรคแรก
โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ามีความมั่นใจมากแค่ไหนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ตนมั่นใจในผู้สมัครที่เราได้คัดเลือกมาทุกคน ตั้งแต่วันแรก ไม่อยากใช้คำว่ามั่นใจ เพราะเรามีของดี มีนโยบายที่นำเสนอไปแล้ว แต่บอกด้วยว่าทำอะไรซึ่งใน 73 วันที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำไปแล้ว ทั้งคนละครึ่งพลัส และการคลี่คลายปัญหาชายแดน ที่มากกว่าพลัสในวันนี้ ไม่ใช่แค่พูดแล้วทำเพียงอย่างเดียว แต่บอกด้วยว่าจะเอาใครมาทำ ซึ่งพรรคได้มีการประกาศไปแล้ว จะนำเอา นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในกระทรวงเดิม ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบายของพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่าครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยมีโอกาสมากกว่าครั้งไหนๆ มองว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวขอบคุณที่มองว่าเป็นโอกาส มาแล้วทุกคนที่มาในที่นี้มาเพื่อทำงาน ถ้าไม่มีโอกาสก็ต้องสร้างโอกาส ถ้ามีโอกาสแล้วก็ต้องไขว่คว้าให้เต็มที่ นโยบาย และในช่วงบ่ายวันนี้จะให้ผู้สมัครทุกคนลงพื้นที่เพื่อนำเสนอนโยบายที่สำคัญและหาเสียงได้ทันที พร้อมยืนยันว่าเราทำเต็มที่
นายเอกนัฏ ยังยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ใช่ศูนย์รวมของบ้านใหญ่ แต่เป็นการรับคนที่อาสาเข้ามาทำงานเพื่อประเทศ นำพาคนไทยกลับมาสู่จุดที่ภูมิใจอีกครั้งอย่างที่เคยมีมาก่อน
เมื่อถามว่าคนกรุงเทพฯจะได้อะไรถ้าพรรคภูมิใจไทยคว้าชัยในกรุงเทพมหานคร นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนในฐานะคนกทม. มองว่า เทพหมดเวลาที่คนกรุงเทพฯต้องแบกภาระของประเทศไทยทั้งประเทศ ซึ่งเราในฐานะรัฐบาลต้องช่วยแบกรับภาระของคนกรุงเทพเอาไว้ และ 73 วันที่ผ่านมาได้แง้มเห็น แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์นิดๆ และเชื่อว่าความหวังที่เรามีจะกลายเป็นความจริง
พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าไว้หรือยัง ว่า กทม. จะได้กี่ที่นั่ง น.ส.ศุภมาศ กล่าวว่า เรื่องตั้งเป้า ทุกคนก็มีการตั้งเป้า แต่เรายังคงพูดในวันนี้ไม่ได้ ขอให้เวลาผู้สมัครได้ลงพื้นที่ และนำเสนอนโยบายถึงพี่น้องประชาชนก่อน แต่ยืนยันว่าเรามีเป้าอย่างแน่นอน แต่ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยวันนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่คนใดคนหนึ่ง แต่ละคนก็มีแฟนคลับ และเราก็ทำงานกันเป็นทีม
เมื่อถามว่าพื้นที่ กทม. จะแพ้ไม่ได้ใช่หรือไม่ น.ส.ศุภมาศ กล่าวว่า เวลาเราลงเลือกตั้งแล้วเราก็ไม่ได้คิดเรื่องแพ้ ทุกคนก็คิดแต่เรื่องชนะ ทำอย่างไรให้ชนะ คือทำดีที่สุดเท่านั้น เพราะเราไม่ได้แข่งกับคนอื่น เราแข่งกับตัวเอง ซึ่งเราได้เห็นแล้วว่าจะมีใครบ้างที่เข้ามาทำงาน และยังมีมืออาชีพที่เรากำลังพยายามทาบทามอยู่ ฉะนั้น เมื่อคนเหล่านี้เลือกพรรคภูมิใจไทยแล้ว เขาก็เห็นในสิ่งที่เขาอยากจะมารับใช้บ้านเมือง และทุกคนก็หวังทำเพื่อประเทศชาติ
นางสาวศุภมาศ ย้ำว่าเราเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชน และเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของคน กทม.
เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะเห็น นายเอกนิติ และนางศุภจี มาช่วยหาเสียงในพื้นที่ กทม. หรือไม่ น.ส.ศุภมาศ ยืนยันว่าเห็นแน่นอน เพราะทั้งสองท่านเป็นผู้ช่วยหาเสียงที่ถูกต้องตามกฏหมาย
Advertisement