
วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อพยพแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสระแก้ว ว่าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างใกล้ชิด โดยภาพรวมสถานการณ์มีความคืบหน้าไปตามลำดับ แต่ยังจำเป็นต้องใช้เวลาในการคลี่คลายอย่างรอบคอบ
พลเอกณัฐพล ระบุว่า การประชุมวันนี้เป็นการรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งฝ่ายไทยพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ดีที่สุด โดยไม่กำหนดกรอบเวลา เพราะไม่ต้องการสร้างแรงกดดันให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพจะดำเนินการอย่างเต็มที่
สำหรับประเด็นการหยุดยิงนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าขึ้นอยู่กับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาเป็นหลัก โดยต้องแสดงความชัดเจนว่ายุติการเป็นปฏิปักษ์อย่างเปิดเผย ซึ่งในขณะนี้ยังพบว่ากัมพูชายังคงเสริมกำลังเข้ามาในแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีพฤติกรรมคุกคามประเทศไทยทำให้สถานการณ์มีแนวโน้มยืดเยื้อ
พลเอกณัฐพล อธิบายว่าหากกัมพูชาหยุดการเสริมกำลังและถอนกำลังที่เผชิญหน้าออกจากแนวปะทะทั้งหมด จึงจะถือว่าสิ้นสุดการเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งแตกต่างจากเหตุปะทะเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่มีข้อตกลงให้ถอนเฉพาะอาวุธหนัก แต่ในครั้งนี้จำเป็นต้องถอนกำลังทั้งหมดออกจากแนวหน้า
ขณะเดียวกันพลเอกณัฐพล เปิดเผยว่าฝ่ายกัมพูชายังไม่มีท่าทีอ่อนลง และยังมีการยิงเข้ามาในฝั่งไทยเป็นประจำทุกวัน แม้รัฐบาลกัมพูชาจะระบุว่าต้องการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและต้องการหยุดยิง แต่พฤติกรรมในพื้นที่กลับสวนทางกับคำกล่าว ทำให้ฝ่ายไทยไม่สามารถวางใจได้ว่ากัมพูชามีความตั้งใจจริงในการยุติการสู้รบหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการขอเจรจาจากฝ่ายกัมพูชา พลเอกณัฐพล ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อโดยตรงจากกัมพูชา แม้จะมีประเทศที่สาม ประมาณ 3–4 ประเทศ แสดงความประสงค์เข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจา
อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำชัดว่าประเทศไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับแรงกดดันหรือท่าทีของประเทศอื่น แต่จะพิจารณาเฉพาะประเทศคู่กรณีเท่านั้น โดยในฐานะรัฐมนตรีฯจะรับฟังเสียงของกองทัพและประชาชนเป็นหลัก
ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ประเทศจีนขออาวุธสัญชาติจีนที่ไทยตรวจยึดได้ในพื้นที่ช่องอานม้า พลเอกณัฐพล ชี้แจงว่าไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับใดที่กำหนดให้ประเทศไทยต้องส่งคืนอาวุธดังกล่าว โดยแนวทางปกติคือการนำไปใช้ประโยชน์หรือทำลายทิ้ง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกองทัพ
สำหรับกระแสข่าวการแฝงตัวของนักรบรับจ้างในพื้นที่เมืองท่องเที่ยว พลเอกณัฐพล ระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานยืนยัน แต่ได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงตรวจสอบอย่างเข้มงวด พร้อมประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติและขอความร่วมมือประชาชนช่วยสอดส่อง หากพบความผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
ท้ายที่สุดในประเด็นการเชิญผู้นำชุมชนในจังหวัดสระแก้ว เข้าหารือพลเอกณัฐพล กล่าวว่าได้กำชับมาตรการด้านความมั่นคงตั้งแต่เริ่มปะทะเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีการปิดด่านและเพิ่มมาตรการตรวจสอบบุคคลเพื่อป้องกันการแฝงตัวของสายลับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งทั้งหมดเป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและกำลังพลในพื้นที่
Advertisement