กลาโหมตอกกลับ "ทุ่นระเบิดไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ" ชี้เขมรจงใจโจมตีพลเรือน
ทรัมป์ไม่จบ! กต. ไทยแจงปมเจรจา ย้ำจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย โฆษก ก.กลาโหม ตอกกลับ "ทุ่นระเบิดไม่ใช่แค่!อุบัติเหตุ" ชี้กัมพูชาจงใจโจมตีพลเรือน
วันที่ 13 ธ.ค. 68 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา นาง มาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงกรณีการสนทนาระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย และ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯนั้นว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่นายอนุทิน ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ ถึงท่าทีของประเทศไทยที่ต้องการสันติภาพ แต่ในขณะนี้เรามีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการมอบหมายให้ตัวแทนของกระทรวงต่างประเทศ ทั้ง 2 ฝ่าย ให้มีการพูดคุยรายละเอียดเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งเวลา 15.00 น. วันนี้ กระทรวงการต่างประเทศโดย นาย สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ จะมีการแถลงข่าว ความคืบกับหน้าเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริการะบุว่า การเหยียบทุ่นระเบิดของทหารไทย เป็นเรื่องอุบัติเหตุ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า อยากให้มีการย้อนกลับไปถามทุกคนว่า มันเป็นอุบัติเหตุจริงหรือไม่ ซึ่งหน้าที่ของทหารไทยคือการปกป้องอธิปไตยของไทย ซึ่งจะมีพลทหารลาดตระเวนในการเดินเท้าและการตรวจสอบพื้นที่ แต่เป็นการจงใจวางทุ่นระเบิด ซึ่งหมายถึงคืออาวุธ ไม่ใช่ของเล่น ทั้งที่ผ่านมาทหารไทยมีการเคลียร์ทุ่ระเบิดในพื้นที่ไปแล้ว และมองว่า สิ่งที่กัมพูชาปฏิบัติ เป็นการสร้างสถานการณ์ ให้เกิดการยั่วยุมาโดยตลอด
ส่วนประเด็นเรื่องพลเรือนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษที่ มีรายงานว่า ได้รับอาการบาดเจ็บ จากการถูกโจมตีด้วยอาวุธฝ่ายกัมพูชา ทำให้แขนขาดนั้น ยืนยันว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการที่กัมพูชามีความตั้งใจโจมตีพลเรือน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียใจที่เกิดความสูญเสียกับพี่น้องประชาชน หลังจากนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานและฟ้องร้องและชี้แจงไปยังเวทีโลกต่อไป
ด้าน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวเสริมว่า การใช้จรวดลำกล้องBM-21 ที่ทหารกัมพูชานำมาใช้ ย่อมรู้อยู่แล้วว่า มันจะต้องตกในพื้นที่พลเรือน ซึ่งตามหลักของทหารแล้ว ต้องได้รับการฝึกฝน และเรียนรู้ถึงข้อจำกัด ขีดความสามารถ ของยุทธโธปกรณ์ในแต่ละชนิด ดังนั้นเป็นไปได้ที่จะมีการอ้างว่า จะยิงฐานทหารฝ่ายไทยแล้วบังเอิญมาโดนพลเรือน มองว่าเป็นการจงใจชัดเจน
ส่วนเรื่องกระแสว่าจะมีการหยุดยิงนั้นยัง เป็นเรื่องที่ยังตอบไม่ได้ เพราะกัมพูชาเป็นผู้ริเริ่ม และละเมิดข้อตกลงหารหยุดยิง โดยย้ำว่าประเทศไทยทำการตอบโต้ ไม่ได้เป็นการรุกราน หรือเปิดฉากการปะทะแต่อย่างใด และพร้อมเข้าสู่โต๊ะการเจรจา ที่คำนึงและยึดมั่นปฏิบัติตามโดยตลอด ยืนยันการโจมตีทางอากาศ เป็นการลิดรอน กำลังพลกัมพูชา เพื่อลดขีดความสามารถของทหาร
Advertisement
