
วันที่ 9 ธ.ค. คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT-TH) โดยทูตทหารมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ลงพื้นที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี เพื่อฟังบรรยายสรุปและตรวจเยี่ยมกำลังพล ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา
โดยในที่ประชุมทหารฝ่ายไทย ได้รายงานสถานกาณ์ที่เกิดขึ้นที่ทําให้ทหารไทย 2 นาย ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่บริเวณภูผาเหล็ก จังหวัดศรีสะเกษ ว่าเกิดจากกัมพูชาเป็นคนยิงใส่ทหารไทยก่อน จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ทางคณะผู้สังเกตการณ์ได้ถามตอบในประเด็นที่มีข้อสงสัย
โดยบางช่วงคณะผู้สังเกตการณ์ AOT-TH ได้ถามว่า ระหว่างที่ปฏิบัตภารกิจทหารไทยมีกี่คนหลังถูกยิงมีการเคลื่อนย้ายอย่างไรบ้าง พร้อมขอหลักฐานบันทึกทางการแพทย์ รวมถึงกําลังพลที่ได้รับบาดเจ็บว่าส่วนใหญ่ถูกอาวุธใดและมีการเก็บบูเล็ตหรือกระสุนปืนบนเสื้อเกาะไว้ด้วยหรือไม่
ซึ่งทางทหารฝ่ายไทย กล่าวว่า ชุดคุ้มกันมี 1 หมู่ปืนเล็ก จํานวน 11 นาย ส่วนการลําเลียงผู้บาดเจ็บมีชุดพยาบาลให้การช่วยเหลือ ส่วนหลักฐานทางการแพทย์จะมีการขออนุญาตตามระเบียบเนื่องจากมีเรื่องของ PDPA สําหรับอาวุธที่ทางกําลังพลไทยถูกยิงนั้นมาจากอาวุธยิงสนับสนุนปืนใหญ่ BM-21 และ ปืน ค. บางส่วน ในส่วนของกระสุนบนเสื้อเกาะนั้น จะมีการสอบถามไปที่หน่วยอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสถานการณ์การสู้รบยังมีอยู่ตลอดแนวชายแดน
หลังจากนั้นคณะ AOT-TH ได้เข้าเยี่ยมและมอบกระเช้าให้ พลทหารพรชัย จำปาจุม ที่ถูกกระสุนปืนเล็กจากทหารเขมร ยิงโดนเสื้อเกราะได้รับบาดเจ็บ โดยได้สอบถามข้อเท็จจริงในวันที่เดิดเหตุ ซึ่งพลทหารพรชัย เล่าว่า เหตุการณ์วันนั้นตนเองไปคุ้มครองทหารช่างที่ทำถนน แล้วเห็นทหารกัมพูชาเดินตรงมาที่รั้วลวดหนามที่ทหารไทยวางไว้ ตนเองจึงเป็นคนไล่ทหารกัมพูชาให้เดินกลับฝั่งของกัมพูชาไม่ให้เข้ามาที่รั้วลวดหนาม แล้วทหารกัมพูชาก็เดินถอยกลับไป ซึ่งตอนนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าทหารกัมพูชาแอบซุ่มอยู่ในป่า แล้วจากนั้นก็มีทหารกัมพูชารายนึงยิงใส่ตน โดยตนเองไม่เห็นหน้าเพราะคนที่ยิงแอบซุ่มอยู่ในป่า
ตนเองโดนทหารกัมพูชายิงก่อนเป็นคนแรก แล้วจ่าสิบเอก อนุชาติ เรือนคำ ก็ถูกยิงอีกรายมีืบริเวณขา จากนั้นทหารไทยจึงโต้ตอบทหารเขมรด้วยการยิงคืน จุดที่ทหารกัมพูชาซุ่มอยู่น่าจะห่างรั้วลวดหนาม 20 เมตร
โดยถายหลังเสร็จภารกิจ พ.อ.พชรเดช สุรัศวาธี ฝ่ายข่าวกรอง ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ในฐานะผู้แทนกองทัพบกที่ร่วมคณะ AOT ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า พลจัตวาซัมซุล หัวหน้าคณะชุดตรวจและสังเกตการณ์อาเซียน ไม่ได้เดินทางมาด้วยเนื่องจากติดภารกิจที่ต้องเข้าร่วมรับฟังบรรยายสรุปจากกองบัญชาการกองทัพไทยเกี่ยวกับเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงได้ส่งตัวแทนทีมจากประเทศมาเลเซีย 2 ท่าน ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียร่วมคณะสังเกตการณ์ในวันนี้
โดยวัตถุประสงค์ในวันนี้มี 3 ประเด็นหลัก คือ ทาง AOT ประเทศไทยจะรวบรวมหลักฐานว่ากำลังงพลของไทยได้รับบาดเจ็บจากอาวุธชนิดใด พิกัดใด ในพื้นที่ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ต้องรวบรวมไปในรายงานเพื่อส่งไปที่ AOT สํานักงานกรุงกัวลาลัมเปอร์
นอกจากนี้ พลจัตวาซัมซุล ได้ฝากว่าคณะ AOT ยังคงติดตามสถานการณ์และสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องและขอพรสิ่งศักดิ์ให้ทหารไทยและทั้งสองประเทศกลับมาสู่ความสงบสุขโดยเร็วที่สุด
Advertisement