Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นายกฯ ลุยขยายผลปราบยาเสพติด-ธุรกิจเทา ลั่นไปถึงไหนโดนหมด

นายกฯ ลุยขยายผลปราบยาเสพติด-ธุรกิจเทา ลั่นไปถึงไหนโดนหมด

20 พ.ย. 68
14:05 น.
แชร์

นายกฯ ลุยขยายผลปราบยาเสพติด-ธุรกิจเทา ลั่นไปถึงไหนโดนหมด บอกไม่มีช่วย มีแต่ซ้ำ ซัดพวกฝนตกขี้หมูไหล หนุนเจ้าหน้าที่จัดการ ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ 

วันที่ 20 พ.ย. 68 นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระบวนการสวมสิทธิ์บัตรประชาชนให้กับต่างด้าว จะมีการดำเนินการ กับผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับสูงขึ้นหรือไม่ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล หากไปถึงไหนก็ต้องโดนหมด ส่วนรายละเอียดเรื่องค่าหัวเรียกรับ ขอให้อธิบดีกรมการปกครองชี้แจง 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ในรัฐบาลชุดนี้จะต้องไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่ตนบอก กับพี่ๆตำรวจ ถือว่าโชคดีอย่างหนึ่งที่เหมือนเพื่อนกัน คบกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก คุยกันรู้เรื่อง และเข้าใจหน้าที่กันดี และได้บอกไปว่า ถ้าหนักใจอะไรก็ขอให้ปิดชื่อไว้ก่อน เพื่อดูพฤติกรรม  และถ้าหากเปิดชื่อเจอใครก็จะไม่ยกเว้น 

นายอนุทิน ยังย้ำว่า หากใครมีข้อมูล ขอนำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเอาไปเก็บไว้ทำไม คนพวกนี้เอาไปเก็บไว้ ก็ไม่เกิดมงคลอะไรกับตัวเอง เอามาให้ตำรวจ ตำรวจจะได้ไปจับ และดำเนินคดีอย่างเต็มที่ แต่ละคนที่ได้ชื่อมาก็เอาไปขยายผล 

ส่วนจะเป็นการล้างบางข้าราชการ กระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าเรียกว่าล้างบาง คำว่า ล้างบางมีแต่คนที่ไม่ดี ในทุกองค์กร มีคนไม่ดีอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ถือว่าเป็นส่วนน้อย ที่ทำชื่อเสียงเหม็นเน่าป่นปี้ ได้มากกว่าคนส่วนใหญ่ ดังนั้นเรื่องการปราบปรามดำเนินคดี กำจัดคนเหล่านี้ออกไป ไม่ใช่เรื่องที่ยาก 

ส่วนได้มีการขยายผลความเสียหายจากการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ข้าราชการการเรียกรับผลประโยชน์ของข้าราชการที่ทุจริต เราก็ดำเนินการไปแล้ว ไล่ออกจากราชการ และจับดำเนินคดี แต่เทียบไม่ได้กับคนเหล่านี้ที่ทำความเดือดร้อน ซึ่งจะต้องติดตามต่อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส  รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เพื่อติดตามเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม 

เมื่อถามว่า จากที่มีการขยายผลพบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจสีเทา นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่า คนพวกนี้เกี่ยวข้องกันทั้งหมด เหมือนฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกัน คนที่เกี่ยวข้องกับค้ามนุษย์ การพนัน สแกมเมอร์ พนันออนไลน์ ค้าบริการทางเพศ ก็อยู่ในกลุ่มนี้ทั้งหมด เพราะมันก็ทำได้แค่นี้ 

นายอนุทิน ยังชื่นชมผู้ปฏิบัติการทุกคน ทำงานอย่างเต็มที่เอานโยบายของรัฐบาลไปทำ รัฐบาลไหนให้ความมั่นใจกับเขา ว่าไปแล้วจะไม่เจอตอ เจอใครก็คนนั้นไม่มีการช่วย ช่วยดีอย่างเดียวคือช่วยซ้ำ ให้มันหนักยิ่งขึ้น อันนี้มีเขาจึงทำงานอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น นโยบายของตนมีความชัดเจน ว่าให้ทำอย่างเต็มที่ จึงเห็นการจับกุมรายใหญ่ๆ ในทุกสัปดาห์ เพราะเราทำงานด้วยความเข้าใจ 

เมื่อถามว่า นโยบายการให้สัญชาติ  ในช่วงที่นายอนุทินดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ระบุว่าเป็นการให้โดยหลักมนุษยธรรม ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าเป็นการเสียหน้าหรือไม่ เพราะ UNSCR ได้กล่าวชื่นชม นายอนุทินจึงกล่าวต่อ ไม่เสียหน้าเพราะเป็นการให้ตามหลักมนุษยธรรม  เพราะคนเสียหน้า คือคนที่มาหาผลประโยชน์ในช่องโหว่ตรงนี้ นายอำเภอเสียหน้าแน่ๆ นอกจากเสียหน้า ยังเสียผู้เสียคนเป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองแม้ ตำแหน่งสูง เห็นประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก หรือพูดง่ายๆ ว่าคนที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายคือคนเหล่านี้ และสุดท้ายก็ถูกดำเนินคดีไม่พ้นเจ้าหน้าที่บ้านเมือง อธิบดีกรมการปกครองมีคำสั่งให้ออกจากราชการ เพราะมีความผิดชัดเจน  

“สิ่งเหล่านี้คือการสนับสนุนให้เห็นว่าทำไปเถอะรัฐบาลอยู่ข้างหลังอย่างเต็มที่ไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ ปืนและของกลางทั้งหลายที่จับได้ ซึ่งเป็นไปได้อย่างไรปืนจำนวนมากเหล่านี้อยู่ในบ้านคนๆ เดียว หากบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป และให้ผู้ใหญ่บ้านสามารถครอบครองอาวุธ ที่สามารถทำลายชีวิต คนได้อย่างรุนแรง แบบนี้ก็เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน สิ่งเหล่านี้เราต้องดำเนินการปราบปราม เพราะผิดกฎหมายทุกอย่าง นี่คือเหตุผลที่ตั้งแต่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ้นไป 3 เดือนแล้วกลับมา ผมไม่ยอมให้มีการต่อ อายุทะเบียนปืน สำหรับคนทั่วไป เราต้องทำให้ประชาชนในประเทศไทยไม่ต้องถือปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น ที่จะต้องถืออาวุธเหล่านี้ไปปราบปรามคนไม่ดี แต่ประชาชนต้องอยู่ด้วยความปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องพกพาอาวุธ ซึ่งของกลางที่จับมาบอกว่าเอาไว้ป้องกันตัว มันไม่ได้ เพราะมีเยอะก็เท่ากับมีไว้เอาไปทำลาย คนอื่น ข่มขู่ ซึ่งต้องปราบ และทราบข่าวว่าที่ถูกจับกุมได้รับการประกันตัวด้วยวงเงิน แค่นิดเดียว หนึ่งแสนบาท ซึ่งกลับไปผมจะทำหนังสือกราบเรียนประธานศาลฎีกาให้พิจารณา คนที่ทำผิดแบบนี้สมควรที่จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ แต่ผมเคารพดุลพินิจของศาลอยู่แล้ว ซึ่งคนที่ให้ประกาศอาจดูเพียงสำนวน ไม่ได้ดูจุด ว่าร้ายแรงอย่างไร หากมาเห็นว่าผู้ต้องหาพกอาวุธร้ายแรงขนาดนี้ เต็มบ้าน และมีพฤติกรรมไม่ดี ทำผิดกฎหมายแทบทุกอย่าง แต่พอจับได้ ก็ได้การประกันตัว ขอย้ำว่าความเคารพต่อดุลพินิจสารของผมมี แต่ก็ต้องทำเรื่องกราบเรียนให้ทราบว่าต้องมีวิธีอะไรหรือไม่ ซึ่งสุดแล้วแต่ความกรุณา" นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

แชร์
นายกฯ ลุยขยายผลปราบยาเสพติด-ธุรกิจเทา ลั่นไปถึงไหนโดนหมด