Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“เท้ง ณัฐพงษ์” ชี้การเมืองไร้เสถียรภาพ-รัฐพันลึก คืออุปสรรคพัฒนาประเทศ

“เท้ง ณัฐพงษ์” ชี้การเมืองไร้เสถียรภาพ-รัฐพันลึก คืออุปสรรคพัฒนาประเทศ

17 พ.ย. 68
21:03 น.
แชร์

“เท้ง ณัฐพงษ์” ชี้การเมืองไร้เสถียรภาพ-รัฐพันลึก คืออุปสรรคสำคัญการพัฒนาประเทศ พรรคประชาชนจึงผลักดันแก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ที่สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมวงเสวนา “ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่โมเดลใหม่ในการพัฒนา” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน “Reimagining Thailand’s Development Model” ที่จัดโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)

โดยณัฐพงษ์ระบุว่าปัญหาของประเทศไทยที่ผ่านมามีต้นตอจากปัญหาทางการเมือง ย้อนหลังไป 20 ปีประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี 10 คน ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2565 ถ้าตัด 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป โดยเฉลี่ยนายกรัฐมนตรีแต่ละคนอยู่ในตำแหน่งแค่ 1 ปีกว่า นโยบายอุตสาหกรรมที่ต้องการสร้างงานคุณภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยในสภาวะทางการเมืองที่มีการเปลี่ยนคนบริหารปีกว่าต่อหนึ่งคน การสร้างอุตสาหกรรมใหม่ต้องอาศัยการเมืองที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และมีทีมบริหารที่พร้อม

อย่างไรก็ตามเสถียรภาพอย่างเดียวไม่เพียงพอ การเติบโตอย่างมีคุณภาพต้องการการลงทุนที่มีคุณภาพ และการค้าที่เป็นธรรมก็จะนำมาซึ่งการเติบโตที่เป็นธรรม ประเทศไทยยังมีปัญหาอีกหลายอย่างเช่นเรื่องรัฐพันลึกที่ปิดกั้นและขูดรีด กลุ่มทุนในประเทศส่วนใหญ่แสวงหาค่าเช่าในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่การเติบโตที่ทุกคนอยากเห็น การเติบโตที่มีคุณภาพนอกจากการสร้างตัวเลขที่ดีแล้ว ต้องกระจายไปให้ถึงคนตัวเล็กตัวน้อยข้างล่างและธุรกิจเอสเอ็มอีด้วย

 

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าประเทศไทยไม่สามารถออกแบบนโยบายอุตสาหกรรม การสร้างนวัตกรรม และนโยบายต่างๆ ที่มีการนำเสนอในวันนี้ ถ้าการเติบโตไม่ได้เป็นการเติบโตแบบมีส่วนร่วมและที่เป็นธรรม ซึ่งจะสร้างไม่ได้เลยถ้าประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางนโยบายอย่างแท้จริง ดังนั้น ปัญหาทางการเมืองคืออุปสรรค เป็นสาเหตุหนึ่งว่าทำไมพรรคประชาชนถึงยอมแลกความนิยมทางการเมืองของตัวเองเพื่อเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าไม่แก้ระบบให้ดี ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลอีกกี่สมัย ถ้าศาลรัฐธรรมนูญปลดนายกรัฐมนตรีได้โดยง่าย ก็ไม่มีทางที่จะนำนโยบายที่มีการนำเสนอวันนี้ไปทำได้ และถ้าไม่ริเริ่มกระบวนการในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในครั้งนี้ ก็ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาใหญ่ของประเทศได้

อย่างเรื่องสมาร์ทกริดที่มีการนำเสนอในวันนี้ ตนเพิ่งโดนฟ้องคดี 1 ร้อยล้านบาทจากทุนไฟฟ้าขนาดใหญ่ ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการผูกขาดโดยทุนพลังงาน สุดท้ายถ้าหากยังมีความสัมพันธ์หลังบ้านที่ยังมองไม่เห็น ระหว่างกลุ่มทุนกับผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจทางการเมือง ก็ไม่มีทางที่เราจะเปิดเสรีด้านพลังงานได้ และการเปิดเสรีพลังงาน ไม่มีทางทำได้ใน 1-4 ปี แต่ต้องการยุทธศาสตร์ของประเทศที่มองในระยะยาวมาก ดังนั้น ระบบการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย สร้างรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม คือสิ่งที่ประเทศต้องมีและต้องทำนโยบายอย่างต่อเนื่อง อาจจะต้อง 8 ปี หรือ 12 ปี จึงจะเกิดอุตสาหกรรมใหม่และงานที่มีคุณภาพได้

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าเรื่องการกิโยตินกฎหมายก็เช่นเดียวกัน TDRI มีผลการศึกษามานานแล้ว ต้นทุนของการมีกฎระเบียบเกินความจำเป็นต่อภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสินบนเงินใต้โต๊ะ หรืออุปสรรคต่าง ๆ ในภาคธุรกิจ ปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท คำถามคือในเมื่อ TDRI หรือภาควิชาการในประเทศไทยศึกษามานานแล้ว แล้วทำไมถึงไม่เคยเกิดขึ้นเสียที นั่นเพราะสิ่งที่ขาดไปคือเจตจำนงทางการเมือง ประเทศไทยรู้หมดว่าต้องทำอะไร แต่โจทย์คือจะทำอย่างไรให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนโยบาย เมื่อเข้ามามีอำนาจแล้วเข้าไปทำจริง ๆ เรื่องเจตจำนงทางการเมืองและที่มาที่ไปของผู้ที่ได้เข้าสู่อำนาจ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้

อีกสิ่งที่สำคัญคือการเปลี่ยนวิธีการใช้งบประมาณ เวทีวันนี้มีการพูดถึงการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งสิ่งที่พรรคประชาชนเสนอมาตลอดคือการเปลี่ยนความต้องการของประชาชนเป็นอุตสาหกรรมใหม่ เช่น การจัดการขยะเป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมมาก ประเทศไทยมีปัญหาขยะล้นเมือง วิธีการจัดการขยะในปัจจุบันมีการตั้งงบประมาณให้ท้องถิ่นทำเตาเผาขยะชุมชนขนาดเล็ก ซึ่งมีราคาแพง พังเร็ว และสกปรก ขณะที่ประเทศที่พัฒนาแล้วใช้ระบบบริหารจัดการขยะโดยใช้เตาเผาขยะขนาดใหญ่ ซึ่งกรรมาธิการของพรรคประชาชนได้เข้าไปศึกษาเรื่องนี้จนได้ผลสรุปเป็นรูปธรรมแล้ว ว่าการลงทุนอย่างถูกจุดสามารถสร้างการลงทุนใหม่ที่มีคุณภาพได้ ถ้าเปลี่ยนเม็ดเงินเดียวกันหลายแสนล้านบาทมาลงทุนอย่างต่อเนื่องและถูกจุด สร้างเตาเผาขยะขนาดใหญ่ ประเทศไทยสามารถมีระบบบริหารจัดการขยะที่ดีเท่าเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้วได้

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าเวลามองเรื่องการลงทุนของรัฐ ทุกคนจะนึกถึงโครงสร้างพื้นฐานและหนึ่งในนั้นคือถนน แต่สิ่งที่ประเทศไทยมีปัญหาอยู่คือการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับประเทศไทยการมีถนนอย่างเดียวไม่เพียงพอ หากดูตัวเลขผู้เสียชีวิตบนท้องถนน หากตัดเฉพาะตัวเลขจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นอันดับต้นๆ ของโลกทันที แต่ความไม่เป็นธรรมของโครงสร้างพื้นฐานของรัฐด้านการขนส่งสาธารณะ เป็นสาเหตุหนึ่งที่บังคับให้คนที่ไม่ได้มีรายได้สูงพอที่จะซื้อรถยนต์ ต้องใช้ถนนและต้องซื้อรถจักรยานยนต์มาใช้ เพื่อจะเข้าถึงโอกาสด้านการทำงาน การศึกษา การรักษาพยาบาล ดังนั้นระบบขนส่งสาธารณะเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีที่สะท้อนว่าประเทศไทยยังขาดการลงทุน และระบบขนส่งสาธารณะแบบที่เป็นอยู่นี้กำลังกดทับคนจน

.

ในเรื่องของ AI ที่มีการพูดถึงวันนี้ก็เช่นกัน โครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นคือพลังงานสะอาด การประมวลผล ข้อมูล อัลกอริทึม และการนำไปประยุกต์ใช้ จะทำ AI ได้จริงต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ครบถ้วน พลังงานสะอาดเป็นหน้าที่ของรัฐ เรื่องชิปอาจจะตาม TSMC และโลกตะวันตกไม่ทัน แต่เรื่องข้อมูลเรายังมีอธิปไตยทางข้อมูลอยู่ในระดับหนึ่ง นั่นคือข้อมูลภาครัฐ ส่วนอัลกอริทึมสิ่งที่น่าสนใจคือถ้าเรามี LLM ที่เข้าใจภาษาและระเบียบราชการได้ เราจะสามารถทำ Digital Transformation ในกระบวนงานภาครัฐได้ทุกกระบวนงานโดยผ่าน prompt เพียงแค่ไม่กี่ prompt และสุดท้ายคือการนำไปประยุกต์ใช้ ที่ภาครัฐสามารถใช้รายจ่ายภาครัฐมาช่วยสนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ได้

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าระบบงบประมาณก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกระบวนการในการจัดทำงบประมาณ ปัจจุบันกระบวนการจัดทำงบประมาณของประเทศไทยมาจากการคิดของระบบราชการมากเกินไป แม้ประเทศไทยจะมีแผนและยุทธศาสตร์จำนวนมาก แต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่รัฐกระดาษ เขียนแผนมากมายแต่กลไกราชการไม่ตอบสนองต่อแผน เพราะกระบวนการตั้งและจัดสรรงบประมาณเป็นแบบต่างคนต่างทำ 

ดังนั้น กระบวนการจัดทำงบประมาณของประเทศไทยต่อจากนี้ควรต้องหาจุดสมดุล ขีดเส้นให้ชัด ในส่วนของรายจ่ายประจำ หน้าที่ของรัฐบาล (ระดับนโยบาย) คือการวางนโยบายให้มีการประหยัดต้นทุนต่อหน่วยของงบประมาณรายจ่ายประจำให้มากที่สุด แต่สำหรับงบประมาณเชิงยุทธศาสตร์ เช่น งบลงทุน ต้องมีการจัดสรรกันใหม่ ถ้าปล่อยให้ส่วนราชการคิดก็จะกลายเป็นงบประมาณสร้างตึก ตัดถนน ขุดคลองไปเรื่อย ๆ เช่นนี้ต่อไป

ดังนั้น อีกสิ่งที่จำเป็นคือการจัดสรรงบลงทุนที่ตอบโจทย์ประเทศโดยระดับนโยบายเป็นคนคิด “ประเทศไทยที่ผมอยากเห็น คือประเทศที่คนไทยเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันโลก” ณัฐพงษ์กล่าวทิ้งท้าย

Advertisement

แชร์
“เท้ง ณัฐพงษ์” ชี้การเมืองไร้เสถียรภาพ-รัฐพันลึก คืออุปสรรคพัฒนาประเทศ