
10 พ.ย. 68 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการพูดคุยกับพรรคประชาชนถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหลังจากที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชนหลังระบุว่าปัญหารัฐบาลยังไม่ร้ายแรงพอ ว่ามีการนัดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการกับ นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านและจะมีการพูดคุยกันเร็วๆ นี้แต่ยังไม่บอกวัน ซึ่งจะมีการพูดคุยกันในหลายเรื่องทั้งการยื่นยัติต่างๆทั้งในเรื่องงานสภา
ส่วนเรื่องที่ศิริกัญญาพูดตนไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะความใกล้กันระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยก็มีมาสักพักแล้วจึงไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ถ้าหากเป็นห่วงเรื่องความเสียหายรุนแรงจริงๆกระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากมีอะไรที่เกิดข้อเสียหายกับประเทศกระบวนการในการตรวจสอบของฝ่ายค้าน ต้องมีเสียงเกิน 100 เสียงประเด็นนี้คงจะมีการพิจารณากัน แต่ถ้าหากมีการยื่นกันจริงๆต้องมีการหารือกันว่าทางพรรคประชาชนคิดอย่างไร ต้องฟังความคิดเห็นรอบด้านว่าทุกคนคิดเห็นตรงกันหรือไม่ เพราะพรรคประชาชนยังเห็นความไม่ชัดเจน
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม และนางสาวรักชนก ศรีนอก ตรวจสอบเรื่องแสกมเมอร์ก็บอกว่าเสียหายเยอะแล้ว ส่วนนายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ก็บอกว่าอาจมีการยื่นเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ดังนั้นให้พรรคประชาชนคุยกันก่อนค่อยมีการหารือกับพวกตน
แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องความเสียหายปัญหาเรื่องของการฮั้วส.ว. เรื่องเขากระโดงจะบอกว่าไม่เกิดความเสียหายทั้งประเทศก็ไม่ได้ เพราะประชาชนเชื่อหรือไม่ว่ามันเกิดความผิดปกติในเรื่องของการเลือกสว.และการยึดครองพื้นที่เขากระโดง
ทั้งนี้หากเพื่อไทยกับพรรคประชาชนสวนทางกันเพื่อไทยจะตัดสินใจยื่นเองหรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่าถูกต้อง เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ไปร่วมกับกระบวนการทำเอ็มโอเอไม่มีข้อจำกัดในการไปเลือกนายกรัฐมนตรีการตัดสินใจของเราเป็นอิสระ ดูความพร้อมข้อมูลที่และดูความเสียหายของประเทศเป็นหลัก
ส่วนเรื่องโพลหรือผลสำรวจล่าสุดพื้นที่ภาคเหนือเพื่อไทยตกลงขณะที่ภาคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนมีคะแนนสูงขึ้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ผมเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพียงแค่อาทิตย์เดียวต้องให้เวลาในการไปปรับเปลี่ยนในเรื่องของการบริหารสถานการณ์ ในเรื่องโพลต่างๆอาจมองว่าตกกว่าแต่ก่อน แน่นอนเราก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าอยู่ในภาวะที่มีความเพลี้ยงพล้ำ แต่คะแนนนิยมยังอยู่ในระดับที่สูงดังนั้นพรรคอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนการทำงาน จะมีคะแนนแคนดิเดตและผู้สมัครที่ตอบโจทย์ความนิยมของประชาชนหรือไม่ เชื่อมั่นว่าถ้ามีการเปิดนโยบายหรือตัวแคนดิเดตมาก็สามารถดันคะแนนความนิยมของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาได้
Advertisement