
วันที่ 29 ต.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังแถลงปิดท้ายพิธีปิดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 ที่ Plenary Hall ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ (KLCC) ถึงเนื้อหาการพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ บนรถลีมูซีนของผู้นำสหรัฐฯ หรือ “เดอะบีสต์”
โดย อันวาร์ ระบุว่า ผมรู้ว่าทุกคนอยากจะรู้ตอนที่อยู่ข้างในรถ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ชวนไปนั่งรถด้วยกัน ซึ่งที่จริงแล้ว ในทางพิธีการทูตไม่สามารถทำได้ เมื่อเข้าไปข้างในรถ เราพบกัน ผมพยายามใช้ความสามารถในการที่จะปฏิสัมพันธ์กับท่านประธานาธิบดีทรัมป์ ท่านเป็นผู้ฟังที่ดี รับฟัง อธิบาย และแลกเปลี่ยนกันในประเด็นต่างๆ เรื่องประเทศของเราทั้งสอง เพื่อนบ้าน เรื่องจีน เรื่องบราซิล เรื่องแอฟริกาใต้
เรื่องภาษี ผมก็ได้พูดคุยกับท่านประธานาธิบดี ในเรื่องภาษี 0% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งออกของเซมิคอนดัคเตอร์ประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ผมก็ขอขอบคุณท่านประธานาธิบดี ที่ให้มาเลเซียตรงนั้น
“ผมคิดว่า ผมอยู่ในจุดที่โชคดี ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสสนทนาอย่างเป็นส่วนตัว และเป็นความลับ และผมต้องสารภาพว่าท่านก็รับฟังความเห็น ผมคิดว่าผมพยายามทำดีที่สุด ที่จะนำเสนอในช่วงระยะเวลาการสนทนา และท่านก็รับฟัง ซึ่งมันก็เป็นเหมือนการประชุมทางการอื่นๆในการเจรจาทวิภาคีระหว่างมาเลเซีย-สหรัฐ และวงอาเซียน นั่นมันเป็นวิธีการทางทูตที่เหมือนกัน ผมได้ทำดีที่สุด ในการร้องขอเรื่องการริเริ่มสันติภาพ ต้องครอบคลุม ยั่งยืน เป็นกลาง และแน่นอนมีอีกหลายอย่างที่คุยกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งผมยินดีที่ได้ฟัง”
อันวาร์ ยังกล่าวอีกว่า “การสนทนาส่วนตัวระหว่างผู้นำ คุณต้องให้ความเคารพ ซึ่งถ้ามีการปล่อยหลุดออกไปเหมือนในอดีต หรือมีการปล่อยเสียงสนทนาทางโทรศัพท์หลุดออกไป คงไม่มีใครที่อยากจะคุยกับคุณ หรือว่าเผยแพร่บทสนทนาส่วนตัว ซึ่งเราจะไม่ทำอย่างนั้น ผมจึงบอกเล่าเฉพาะหัวข้อที่คิดว่าบอกเล่าได้”
Advertisement