(15 ต.ค. 68) ที่ โรงแรมรัตนโกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ได้จัดแถลงข่าวกรณีเกี่ยวกับชายแดนไทย กัมพูชา และเกี่ยวกับเรื่องการยกเลิก MOU 43
โดย นายจตุพร ได้กล่าวฝากไปยังนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประเทศให้ยึดแนวทางแม่ทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา กองกำลังแม่ทัพที่ 2 กองกำลังสุรนารี ที่ได้มีการยกเลิกการประชุมในระดับพื้นที่ที่เรียกว่า RBC ไปแล้ว เพราะทหารกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข และยังคงละเมิดข้อตกลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการยกเลิก MOU43 และ MOU44 ถึงแม้ว่าจะมีระยะเวลาตามเงื่อนไขตามกฎหมายระหว่างประเทศก็ตาม แต่เราสามารถยกเลิกได้ทันที และให้มีผลตามข้อกฎหมายอย่างไม่มีปัญหาใดๆ ซึ่งในวันนี้ความเป็นจริงเวลาที่ทางการประเทศไทยถูกละเมิด กองกำลังทหารไม่สามารถที่จะประท้วงประเทศกัมพูชาได้โดยตรง จึงส่งเอกสารการประท้วงไปยังกระทรวงการต่างประเทศ
แต่ขณะนี้เราถูกละเมิดโดยประเทศกัมพูชา เกือบ 600 ครั้ง จึงอยากให้ทางกระทรวงการต่างประเทศออกมาเปิดเผยข้อมูลตรงนี้ให้ประชาชนได้รับรู้ ว่ามีการแก้ไขอย่างไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาใช้วิธีการเงียบท และเก็บไว้เป็นความลับ และการที่จะกล่าวอ้างว่าเป็นช่องทางเดียวสำหรับการที่จะเจรจากับประเทศกัมพูชา แต่ก็ไม่ได้มีการอธิบายว่าการเจรจาที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 20 ต.ค. 2568 เวลา 10.00 น. คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยเรานัดหมายกันไปที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อที่จะยื่นหนังสือให้ยกเลิกการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ต.ค. 2568 เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่ารัฐบาลฮุนเซน จะกล้าที่จะปิดบ่อนคาสิโนหรือไม่และปราบปรามคอลเซ็นเตอร์อ้างว่าเป็นของนักการเมืองของไทย
นายจตุพร ยังกล่าวว่า เราต้องการรัฐบาลที่มีความเด็ดขาด และมีประสิทธิภาพ เพราะการถูกละเมิดมาอย่างยาวนานทำให้เห็นถึงการถูกปล่อยประละเลยของปัญหาดังกล่าว และถ้าสามารถจัดการปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาที่จังหวัดสระแก้วได้ จะทำให้สถานการณ์ที่เหลือเป็นไปอย่างง่ายดาย
นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. ได้ระบุถึงเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยบอกว่าการร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังจะเข้าสู่รัฐสภาที่เรียกว่า "ร่างแก้ไข หรือร่างยกเลิก" ซึ่งเขากำลังทำสิ่งที่พวกเราไม่เห็นด้วย ตนเองคิดว่าพี่น้องประชาชนต้องเข้าใจว่าเขากำลังจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ทั้งของเพื่อไทย พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา แต่คือการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ถึงแม้พรรคภูมิใจไทยจะบอกว่าไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 แต่ก็เป็นเพียงแค่การยกหมวด 1 หมวด 2 ไปใส่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติสมบัติของ สส. สว. คุณสมบัติองค์กรอิสระ และคุณสมบัติรัฐมนตรี รวมถึงกฎหมายมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การป้องกันการปราบปรามการทุจริต และ ประพฤติมิชอบในแต่ละองค์กร
ดังนั้นคณะรวมพลังแผ่นดินฯ จึงไม่เห็นด้วย และ คัดค้านที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ถ้าหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา อยากให้เห็นชัดเจนว่าจะต้องแก้ให้เห็นถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ โดยเฉพาะมาตราที่เกี่ยวข้องกับปราบโกง ให้มีการปรับปรุงมากขึ้น เช่น ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงของคณะรัฐมนตรีไปใส่ไว้ใน สส. สว. ผู้บริหารองค์กรอิสระ หรือแม้แต่การแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ให้ชัดเจน หรือการคงไว้ขององค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ในปัจจุบัน เช่นศาลรัฐธรรมนูญ
นายสมชาย ยังบอกว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่อยู่ในความในใจของนักการเมืองที่อยากจะแก้ไข แต่ไม่กล้าแก้ให้เห็นชัดเจนให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าอยากแก้อะไร
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ระบุว่าสถานการณ์ชายแดนวันนี้อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับเรื่อง MOU43 และ MOU44 เรื่องนี้จะนำไปสู่การเสียดินแดนทางบก และดินแดนทางทะเล โดยเฉพาะ MOU 43 ระยะเวลาจะทำให้ประเทศเราตกหลุมพราง ขณะนี้เกิดสถานการณ์ 2 สถานการณ์ เรื่องแรกคือการประชุมผู้นำอาเซียนที่จะเกิดขึ้น 26-27 ตุลาคมนี้ และมีรายงานว่าประเทศมาเลเซียมีการเชิญ ประธานาธิบดีสหรัฐมาเป็นประธานเพื่อลงนามสัญญาสันติภาพที่เรียกว่าปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ โดยที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้ตั้งเงื่อนไขกับทางกัมพูชาไว้ 4 ข้อ 1. จะต้องมีการจัดการปัญหาเรื่องทุ่นระเบิด 2. เคลื่อนย้ายกำลังทหาร และอาวุธออกจากพื้นที่ 3. มีการเคลื่อนย้ายประชาชนออกพื้นที่ 4. ปราบปรามแก็งสแกมเมอร์
ซึ่งไม่อยากให้ประชาชนสับสนว่าการที่กัมพูชาลงนามตาม 4 นี้แล้วทุกอย่างจะจบ เพราะเป็นเพียงแค่การลงความตึงเครียดของปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาเท่านั้นถึงแม้จะมีการลงนามแล้วก็ไม่ได้แก้ไขปัญหา เพราะหัวใจของปัญหาคือ MOU43 ที่จะทำให้มีความเสี่ยงให้ไทยเสียดินแดนได้
นพ.วรงค์ อ้างคำพูดของนักการฑูตท่านหนึ่งว่าเป็นความโชคดีอย่างยิ่งของประเทศไทยที่ประเทศกัมพูชามีการยิง หรือเอาปืนระเบิดที่ทำให้ประชาชนเสียชีวิต คือความโชคดีเกิดขึ้น กัมพูชากำลังละเมิดประเทศไทยอย่างรุนแรงในเงื่อนไขของ MOU43 และเงื่อนไขนี้จึงเป็นเงื่อนไขที่เราจะนำไปสู่การยกเลิก MOU43 แบบฝ่ายเดียวได้
นพ.วรงค์ ระบุด้วยว่าประเทศไทยจะต้องไม่เข้าร่วมการประชุม JBC เพราะหากเข้าร่วมจะไม่สามารถเข้าเงื่อนไขการยกเลิก MOU43 ได้ นอกจากนี้ยังเรียกร้องไปยังนายอนุทิน ให้ประกาศชัดเจนว่าจะยกเลิก MOU43 โดยให้มีผลในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ ซึ่งทางกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติ MOU43 เพราะมองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องการเปิดเสียงผีชายแดน นพ.วรงค์ ยืนยันว่าเป็นไปตามแบบสากลที่แต่ละประเทศก็ปฏิบัติการและไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ ดังนั้นขอให้มนุษยชนที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้กลับไปศึกษาใหม่
Advertisement